Home ข้อคิดดีๆ คนเป็น “หัวหน้างานที่ดี” แบบนี้ ลูกน้องมีคุณภาพ(หัวหน้าควรรู้ไว้)

คนเป็น “หัวหน้างานที่ดี” แบบนี้ ลูกน้องมีคุณภาพ(หัวหน้าควรรู้ไว้)

โดยทั่วไปการคัดเลือกหรือแต่งตั้งหัวหน้างานจะทำการคัดเลือก จากพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีผลการทำงานดี

มีพฤติก รรมที่ดีเป็นที่ไว้วางใจได้ (หรืออาจคัดเลือกมาจากบุคคลภายนอก) แต่งานที่ทำได้ดีอยู่เดิมนั้นจะเป็นการทำงาน

ที่สำเร็จด้วยตนเองเป็นหลักโดยอาศัยคู่มือหรือระเบียบปฏิบัติงานที่ชัดเจน

แต่การเป็นหัวหน้างานที่ต้องทำให้งานสำเร็จโดยใช้ผู้อื่นทำโดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชานั้นต้องมีการประสานงานกับแผนกต่างๆ

มากขึ้น ลักษณะการทำงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมคือเปลี่ยนจากการทำงานกับงานของตัวเองเป็นการทำงานกับคน

ซึ่งมีเงื่อนไข เทคนิคและปัญหามากขึ้นจากเดิมบ่อยครั้งที่พบว่าผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้างานยังคงปฏิบัติงานใน เ นื้ อ งานที่ตัวเองเคยชินอยู่

ไม่กระจายงาน ไม่ติดตามงาน ไม่สอนงาน เป็นต้น ดังนั้นหัวหน้างานไม่ว่าเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้ง หรือกำลังปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานอยู่แล้ว

หรือแม้แต่พนักงานที่มีศักยภาพที่จะเตรียมตัวขึ้นเป็นหัวหน้างาน ควรได้รับการอบรมสำหรับการเป็นหัวหน้างานที่ดี

ซึ่งต้องอาศัยการอบรมอย่างเหมาะสม ดังนั้นหัวหน้างานที่ดีควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. ต้องเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของการเป็นหัวหน้างาน

2. มีวิธีในการสร้างแรงจูงใจ ให้กับผู้อื่น

3. มีการการกระจายงานและมอบหมายงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา

4. ต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ

5. มีการติดตามงาน

6. มีทักษะในการประเมินผลงาน และการให้คำแนะนำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา

1. ต้องเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของการเป็นหัวหน้างาน

การได้รับตำแหน่งหัวหน้างาน ถือเป็นบทบาทใหม่ ที่คุณไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งคุณก็อาจจะยังไม่แน่ใจ

ในบทบาทตัวเองสักเท่าไหร่ มีหน้าที่อะไรบ้างที่เพิ่มขึ้นมา อำนาจการตัดสินใจมีมากแค่ไหน รวมถึงความคาดหวังจากผู้บริหารมีอะไรบ้าง

ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการคุยกับผู้บริหารโดยตรง ว่าขอบเขตการทำงานของคุณอยู่ตรงไหน มีเรื่องใดบ้างที่ต้องให้ผู้บริหารตัดสินใจ

สอบถามให้ชัดเจนว่ามีเป้าหมายใด ที่คุณจะต้องทำให้สำเร็จในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเป้าหมายที่ชัด

จะช่วยให้คุณเห็นภาพว่าต้องทำอะไร หลังจากนั้นการวางแผนก็จะเป็นเรื่องง่าย

2. มีวิธีในการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้อื่น

บางครั้งต่อให้คุณมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก่งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยดี เพราะตัวแปรสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง

ก็คือนิสัยใจคอของแต่ละคน ซึ่งอย่างแรกเลยคุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าคนมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องสไตล์การทำงาน นิสัยส่วนตัว

ซึ่งคุณไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ สำคัญเพียงแค่ว่าคุณจะทำอย่างไรให้พวกเขาทำงานร่วมกันได้ดี

โดยอาจจะจัดให้มีการประชุมทีมขึ้น เพื่ออธิบายถึงบทบาทหน้าที่ใหม่ของคุณ ชี้ชัดให้ทุกคนเห็นถึง

เป้าหมายเดียวกันและเน้นย้ำว่าเป้าหมายจะสำเร็จได้ต้องมาจากความร่วมมือกันของทุกคน

หลังจากนั้นหาเวลาพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อสอบถามถึงปัญหาที่พบในการทำงาน

หรือ ความไม่สบายใจต่าง ๆ เพื่อที่จะปรับแก้และหาวิธีที่ลงตัวที่สุด

3. มีการการกระจายงานและมอบหมายงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา

หลายคนเมื่อเข้ามารับตำแหน่งใหม่ก็มักจะปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำในสิ่งที่เคยทำโดยไม่ได้พิจารณาว่าแต่ละคนนั้น

ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดจริงหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณควรแบ่งเวลาเพื่อศึกษาผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณในแต่ละคนว่ามีทักษะด้านไหนบ้าง

จุดแข็ง จุดอ่อนและสไตล์การทำงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร หาโอกาสคุยเพื่อสอบถามความคิดเห็นและวางแผนการทำงานร่วมกัน

ซึ่งนอกจากคุณจะได้คนที่เหมาะกับงานที่สุดแล้ว คุณอาจจะเจอความสามารถพิเศษบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ในตัวของผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณก็ได้

เพราะบางคนเสียเวลาทำสิ่งที่ไม่ถนัดมาทั้งชีวิตแต่พอได้เปลี่ยนไปทำในสิ่งที่ชอบก็อาจจะทำผลงานได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

4. ต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ

การที่ผู้บริหารเลือกคุณขึ้นมาเป็นหัวหน้านั่นแสดงว่าเขาเห็นแววการเป็นผู้นำในตัวคุณอยู่แล้ว แต่หลายครั้งหัวหน้างานใหม่

ก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าหน้าที่หลักของหัวหน้าคือการสั่งงาน ควบคุมงานให้เสร็จโดยที่ความคิดของหัวหน้าต้องเป็นใหญ่ที่สุด

อย่าลืมว่าคุณยังไม่ได้สร้างผลงาน หรือมีการแสดงออกให้ทุกคนยอมรับไม่ใช่เอาแต่สั่งงานอย่างเดียว จริงๆ

แล้วภาวะผู้นำสามารถแสดงออกผ่าน การกระทำได้หลายรูปแบบไม่ว่าจากการวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกทีมเห็น

เป็นโค้ชที่คอยสอนงาน เป็นที่ปรึกษาที่ช่วยให้คำแนะนำ

และเป็นเพื่อนที่ร่วมงานสังสรรค์กันบ้างในบางเวลา และควรเตรียมพร้อมและเปิดใจรับฟังปัญหาจากลูกน้องอย่างทั่วถึงเสมอ

ประพฤติกับลูกน้องให้เปรียบเสมือน ‘ลูกค้า’ ที่ให้คุณเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขา

นำเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับการนับถือมากขึ้น รวมถึงในบางครั้งการเป็นตัวกลางเพื่อช่วยสื่อสารและรับ แ ร ง เ สี ย ด ท า น

ในเรื่องการบริหารงานจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชากล้าที่จะพูดถึงปัญหามากขึ้น ทำให้คุณรับรู้และช่วยดันเรื่องให้ผู้บริหารดำเนินงานให้กับคุณได้รวดเร็วมากขึ้น

5. มีการการติดตามงาน

ตอนนี้คุณมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต้องรับผิดชอบแล้ว การที่คุณมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักเพื่อทำงาน

ของตัวเองให้เสร็จเหมือนเมื่อก่อนคงจะไม่เพียงพออีกต่อไป อย่าลืมว่าหน้าที่คุณนั้นเปรียบเสมือนกัปตันเรือ

ที่ต้องรับผิดชอบลูกเรืออีกหลายชีวิต คุณไม่จำเป็นต้องออกแรงพายแต่คุณจะต้องรู้ว่าหางเสือต้องหันไปในทิศทางไหน

ใครมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง และต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ เพื่อที่จะไปถึงจุดหมายได้ในระยะเวลาที่กำหนด

นอกจากคุณจะต้องคอยดูแลการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในภาพรวมแล้ว คุณยังต้องหมั่นมองไปข้างหน้า

อีกด้วยว่ามีอุปสรรคหรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้วางแผนรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที

6. มีทักษะในการประเมินผลงานและการให้คำแนะนำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา

คุณควรกำหนดการทำงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนตามตำแหน่ง มีกิจก รรมที่วัดผลงานให้กับพวกเขาอย่างชัดเจน

เช่น งานผลิต คุณต้องกำหนดกิจก รรมที่วัดผลได้ให้กับพวกเขา เช่น ผลิตงานได้ ชั่ ว โมงละกี่ชิ้น ทำใบนัดส่งสินค้าได้วันละกี่ใบ เป็นต้น

และอย่าใช้อคติกับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอันขาด เพราะการทำงานที่เป็น Team Work จะค่อยๆหายลงไปในไม่ช้า

กรณีเช่น คุณชอบลูกน้องคนนี้ จึงมอบหมายงานให้กับคนนี้ เพียงคนเดียว แต่กับอีกคนคุณจึง

ไม่กำหนดงานอะไรทำให้เขาไม่มีผลงาน และการประเมินงานที่ดีที่สุด

คือการจัดประชุมเพื่อตรวจเช็คการทำงานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแสดงความคิดเห็น

หรือเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหม่ๆ และกำหนดวินัยให้กับทีมในการส่งรายงานการทำงาน (R e p o r t)

เพื่อให้คุณสามารถใช้เวลาตรวจสอบการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาด้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมกับทุกคน

ดังนั้นช่วงแรกของการก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งหัวหน้างานนี้ อาจจะดูวุ่นวายและต้องใช้เวลาในการปรับตัวอยู่บ้าง

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ถูกเลือกมาอยู่ในตำแหน่งนี้แล้วแสดงว่าคุณเองก็ต้องมี ดีเหมือนกัน

การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำที่ดีนั้น ไม่สามารถจะทำให้สำเร็จได้แค่เพียงข้ามคืน แต่คุณควรจะต้องใช้

เวลาในการสั่งสมประสบการณ์ สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเอง

เพราะวันข้างหน้ายังมีความท้าทายอีกมากมาย ที่รอคุณอยู่ในเส้นทางของการเป็นหัวหน้างาน…….ขอให้โชคดีครับ

Load More Related Articles
Load More By wera phosri
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

11 การเอาตัวรอดเป็น ไปทำงานที่ไหนก็ราบรื่น ไม่ลำบาก

1 เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม คนที่ฉลาดมักจะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ต่…