
อย่าคิดว่า คำพูด นั้นไม่สำคัญอย่าคิดว่า คำพูดนั้นไม่มีพลังใดๆ คำกล่าวของไทยที่พูดว่าคำพูด
เมื่อออกจากปากก็เข้าหูคน หมายถึงว่าก่อนจะพูดสิ่งใดให้คิดดี เพราะคำพูดเป็นเหมือนดาบ
ที่ไม่มีคมแต่เฉือดเฉือนหรือสร้างกำลังใจก็อยู่ที่อารมณ์ของคำพูดนั้นๆ เป็นหลัก
ยิ่งในแวดวงของธุรกิจด้วยแล้วทักษะด้านการพูดนั้นมีความสำคัญมาก ในทุกองค์กรต้องมีทีมงาน
ต้องมีพนักงานที่มาทำงานนั้นๆ การที่เจ้าของกิจการรู้จักเลือกคำพูดที่เหมาะสม ก็จะเป็น
การบริหารจัดการบุคลากรในรูปแบบหนึ่งหรือแม้แต่บรรดาหัวหน้างานต่างๆ ก็เช่นกัน
การมีทีมงานหรือรับผิดชอบบริหารลูกน้อง ต้องนึกเสมอว่าจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้รู้สึกมีขวัญ
และกำลังใจในการทำงานและจะเลือกใช้คำพูดอย่างไรให้พนักงานได้รู้สึก
ว่าการทำงานไม่ใช่ภาระที่ต้องแบกรับเรื่องราวเอาไว้คนเดียว
ทักษะการพูดจึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนผู้ที่คิดจะทำธุรกิจต้องเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากถ้าเราจะศึกษา
ทำความเข้าใจ ซึ่งได้นำตัวอย่างของประโยคการพูดที่เป็นเชิงบวก เพื่อสร้างขวัญและติดไฟให้กับพนักงานได้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น
ทั้งนี้ธุรกิจไหนได้เรียนรู้และเอาไปปรับใช้อย่างน้อยก็ช่วยทำให้โครงสร้างบุคลากรนั้นแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
1. “ผมเชื่อว่าคุณทำได้ดีกว่านี้แน่นอน”
เป็นทักษะการเลือกใช้คำพูดที่สร้างกำลังใจ ให้พนักงานได้ดึงเอาศักยภาพที่มีในตัวเองออกมาใช้ให้มากขึ้น
โดยถ้าแปลเอาจากความหมาย ในประโยคนี้คือบริษัทเห็นศักยภาพในตัวของเราว่าเราสามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่ทำมาในครั้งนี้
และนี่ถือเป็นตัวอย่างของคำพูดในเชิงบวก ซึ่งสามารถทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานที่ดีขึ้น
ผิดกับผู้นำบางคนที่พอเห็นผลงานที่ออกมาแล้ว ก็พูดว่า “ไหนว่าเก่งไง ทำไมทำได้แค่นี้”
แน่นอนเป็น 2 ประโยคที่ออกมาจากการพูดของเจ้าของธุรกิจ เช่นกัน
แต่ความรู้สึกกับผลที่ได้รับหลังการพูดนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
2. “ผมมีความภูมิใจในตัวคุณมากจริงๆ”
พนักงานที่ทำผลงานได้ดี ผู้นำก็ควรที่จะให้คำชม และให้คำยกย่อง ในลักษณะที่ยอมรับ
ในผลงานของพนักงาน ดังนั้นคำ พูดนี้ จึงเป็นคำพูดที่หัวหน้าหรือตัวผู้นำเองบอกกับพนักงานว่า
เขารู้สึกดีมากกับผลงานและสิ่งที่เราทำให้กับบริษัทโดยตามทฤษฏีแล้วคำพูดเช่นนี้คือรางวัลทางใจ
ที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และอยู่ในสายตาของเจ้าของธุรกิจ จะเป็นการเร่ง
ประสิทธิภาพของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้สมกับที่เจ้าของธุรกิจนั้นได้ไว้วางใจในการทำงานนั้นๆ
3. “ผมเห็นศักยภาพในตัวของคุณ ผมอยากจะเสริมทักษะบางอย่างให้ เพื่อให้งานของคุณดีขึ้นไปอีก”
รูปประโยคที่คล้ายกับเป็นการตำหนิแต่ถ้ารู้จักการใช้ปรัชญา การพูดจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตัวเอง
ยังเป็นที่ต้องการของบริษัทนั้น ๆเช่น ประโยคข้างต้นคือ “ผมเห็นศักยภาพในตัวของคุณ ผมอยากจะ
เสริมทักษะบางอย่างให้เพื่อให้งานของคุณดีขึ้นไปอีก” กับคำพูดในลักษณะเดียวกันแต่ รุ น แ ร ง กว่าคือ
“งานที่ทำมานั้น ทำให้ผมเห็นว่าคุณยังต้องพัฒนาอีกเยอะเลย”แน่นอนว่าประโยคหลังนี้ ใครได้ฟังย่อมรู้สึก
ได้เลยว่าเจ้านายไม่ปลื้มและที่ตามมาคือความรู้สึกในการท้อแท้หมดกำลังใจและไม่มีความคิดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้ออกมาอีกด้วย
4. “มีอะไรที่จะให้ผมช่วยได้บ้าง”
นี่คือประโยค ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา การใช้ประโยคที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว
หรือให้ความรู้สึกว่าในขณะที่เราทำงานก็ยังมีคนเห็นถึงผลงานที่เราทำอยู่รวมถึงรูปประโยค
แบบนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานให้เขารู้สึกว่าระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง
นั้นไม่ได้มีช่องว่างมากจนเกินไป รวมถึงเป็นประโยคแสดงน้ำใจที่ทำให้พนักงานมีกำลังใจ
ในการทำงานแน่นอนว่าลูกน้องจะต้องบอกว่าไม่มีอะไรครับเดี๋ยวผมจัดการเองได้
แต่ภายในใจเขาจะรู้สึกได้ถึงกำลังใจ ผิดกับการเป็นเจ้านายที่ใช้แต่
ประโยคคำสั่งและไม่เคยใช้ประโยคคำถามในการสร้างกำลังใจให้พนักงาน
5. “ความสำเร็จของบริษัท มาจากพวกเราทุกคน ถ้าผมขาดพวกเราทุกคน ก็คงไม่สำเร็จแบบนี้”
เป็นประโยคที่มุ่งเน้นให้ทุกคนในองค์กรรู้สึกว่าตัวเองเป็น ฟั น เฟืองที่สำคัญ ไม่ใช่แค่
การถูกจ้างมาทำงานให้จบไปแบบวันต่อวันซึ่งในความเป็นจริงคำพูดนี้ก็เป็นความจริงทางธุรกิจ
ที่ทุกองค์กรย่อมมีความสำเร็จที่เกิดมาจากการทำงานของพนักงานทุกคนไม่มีใครที่ทำ
ธุรกิจคนเดียวแล้วจะสำเร็จได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้คนในองค์กรได้รู้ถึงความสำคัญของตัวเอง
เช่นนั้นก็ต้องใช้คำพูดในลักษณะเหล่านี้ ผลที่ตามมาคือพลังใจในการทำงานที่เปี่ยมล้นและรู้สึกว่า
ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรซึ่ง ถือเป็นเรื่องสำคัญกับการเป็นธุรกิจที่จะแข็งแกร่งต่อไปในอนาคตซึ่งจริงๆ
แล้วยังมีคำพูดดีๆ อีกมากมาย ที่เราสามารถคิดและพูดออกมาได้เลยในฐานะของผู้นำ
ขอเพียงแค่ว่า เป็นคำพูดที่ดี และแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่เรามีให้กับพนักงานของเราการที่เรา
จะเป็นผู้นำที่ดีนั้น เรื่องของคำพูดต่างๆ จะต้องระมัดระวังให้ดี เพราะพูดไปแล้วถือว่าเป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้กับพนักงานของเราทันที
ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานเองก็มักจะเชื่อและได้รับอิทธิพลจากคำพูดเพียงไม่กี่คำของผู้นำด้วยเช่นกัน
ดังนั้นคำพูดของผู้นำ สามารถที่จะสร้างพลังให้มากขึ้นหรือดูดพลังของพนักงานให้หดหายไปได้ในทันทีเช่นกัน