
การลาออกจากงานเพื่อหางานใหม่เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่า
ในช่วงนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนเลิก
คิดเรื่องการลาออกและหางานใหม่ไป ชั่ ว คราว โดยเฉพาะคนที่ใช้เหตุผลว่า เบื่อ หรือ
เ ก ลี ย ด งานที่ทำคนที่เบื่องาน หรือ เ ก ลี ย ด งานที่กำลังอยู่อาจกำลังมีความรู้สึกว่า
ถ้าลาออกจากงานตอนนี้มีโอกาสที่จะได้งานใหม่ที่ดีกว่า มีเงินเดือนที่ดีกว่า รวมถึงได้สร้างความท้าทายใหม่ๆ
ให้กับชีวิต แต่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ การเปลี่ยนงานอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้
5 เหตุผลควรคิด ก่อนคิดลาออกจากงานหากช่วงนี้คุณมีความรู้สึกว่าเบื่องานที่ทำ ให้ลองพิจารณา
5 เหตุผลที่จะช่วยให้คุณฉุกคิดได้ว่าการลาออกจากงานอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของคุณในช่วงนี้
ไม่รู้เป้าหมายในอนาคต ว่าต้องการอะไรต่อไป
บางครั้งความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนงาน อาจเป็นความคิดที่เกิดขึ้นมาลอยๆ เพราะความเบื่อที่เกิดขึ้
นจากความจำเจที่ต้องทำทุกวันๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าถ้าลาออกจากงานไปแล้วจะไปทำงานอะไรต่อ
แสดงว่าคุณอาจยังไม่เหมาะที่จะลาออกจากงานในช่วงนี้ สิ่งที่คุณต้องคิดไว้ก่อนที่จะลาออกจากงานคือ
ถ้าลาออกจากงานเดิมแล้ว งานใหม่จะทำอะไร รูปแบบงานเป็นอย่างไรอาจจะยังไม่ต้องลงรายละเอียดมากๆ ก็ได้
แต่อย่างน้อยต้องมีไกด์ไลน์ก่อน ซึ่งการตั้งเป้าหมายของตัวเองในอนาคตจะเป็นการช่วยให้คุณสามารถ
รู้ได้ว่าหากคุณต้องการไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ คุณต้องทำอย่างไรบ้างการตั้งเป้าหมายในอีกทางหนึ่ง เป็น
วิธีที่ช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจที่จะทำให้สำเร็จ ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในปัจจุบัน นั่นก็คือหมายถึงหน้าที่
การงานที่ดีกว่าตามความต้องการที่ตั้งไว้ซึ่งในทางกลับกันหากคุณลาออกจากงานโดยที่ยังไม่รู้เป้าหมาย
ว่างานต่อไปอยากทำอะไร จะทำให้คุณรู้สึกเบื่อ รู้สึกไร้เป้าหมาย รวมถึงรู้สึกว่าคุณค่าในตัวคุณเองลดลง
อย่าลาออกเพราะอยากมีเวลาว่างเพื่อหางานใหม่
การลาออกเพราะอยากมีเวลาว่างในการหางานอย่างเต็มที่ คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ในยุคนี้
เพราะในความจริงแล้ว เวลาว่างเพื่อหางานใหม่มีอยู่เสมอโดยไม่ต้องคิดลาออกจากงานก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าก่อนเข้างาน ใช้เวลาในขณะเดินทางไปทำงาน ช่วงเย็น หรือในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ก็สามารถหางานใหม่ได้เช่นกัน การลาออกจากงานเพื่อหวังมีเวลาว่างมากขึ้น
เวลาว่างที่มีมากจนเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพในการหางานลดลง เพราะบางครั้งเวลาว่าง
จะทำให้เราขาดความกะตือรือร้น จนใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ใช้เวลาไม่คุ้มค่า
ซึ่งบางครั้งการหางานใหม่อาจทำให้คุณรู้สึกว่างานเดิมของคุณเป็นที่น่าพอใจมากอยู่แล้ว
และหากเปลี่ยนงานใหม่ อาจทำให้คุณพลาดสิ่งดีๆ ที่งานเก่าของคุณเคยมีให้ก็เป็นไปได้เช่นกัน
ซึ่งหากลาออกจากงานไปตั้งแต่แรก ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้งานดีๆ แบบเดิมกลับมา
ได้เงินเดือนมาก แต่ก็ยังไม่พอใช้ ทางแก้อาจไม่ใช่การหางานใหม่
บางครั้งฐานเงินเดือนที่ได้รับก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบในตำแหน่งงาน แต่บางคนอาจมีความรู้สึก
ว่าเงินเดือนที่ได้ไม่คุ้มกับความรับผิดชอบที่มี ก่อนที่จะคิดลาออกจากงานเพราะเหตุผลเรื่องเงินค่าตอบแทน
ควรลองคิดดูก่อนว่าเงินเดือนที่ได้น้อยไม่คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ หรือความจริงแล้วเป็นเพราะคุณ
ใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นจนรู้สึกว่าเงินที่ได้น้อยกว่าความเป็นจริง
ทางแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืนคือการบริหารจัดการการใช้เงินของตัวคุณเองใหม่ก่อน เพราะ
การลาออกไปหางานใหม่ที่ได้เงินเดือนมากกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ถ้าไม่ปรับการใช้เงิน
ไม่ว่าจะเปลี่ยนอีกกี่งานหรือได้เงินเดือนเพิ่มมากแค่ไหน ยังไงเงินก็ไม่พอใช้อยู่ดี หรือ
ถ้าสุดท้ายแล้วการปรับพฤติกรรมการใช้เงินยังไม่ช่วยแก้ปัญหา ก็ให้ลองเจรจาต่อรองกับ
หัวหน้าเพื่อปรับเงินเดือนขึ้นก่อน แต่ให้การหางานใหม่ เป็นทางเลือกท้ายๆ จะดีกว่า
Connection สำคัญ อย่าออกไปโดยไม่มี
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Connection เป็นสิ่งสำคัญทั้งการทำงานและการหางานใหม่ ดังนั้น
อย่าคิดลาออกจากงานเก่าโดยไม่มี Connection ที่ดี เพราะ Connection ที่ดีแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยให้คุณได้งานใหม่ในทันที
แต่อาจมีประโยชน์ในฐานะคำแนะนำที่คุณอาจได้รับ เช่น ฟีดแบคว่าคนที่คุณจะไปสัมภาษณ์งาน
ด้วยมีลักษณะอย่างไร เป็นมิตรมากน้อยแค่ไหน หรือต้องใช้วิธีการพูดอย่างไรเพื่อสร้าง
ความประทับใจในการสัมภาษณ์งาน เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ได้งานง่ายขึ้น
ดังนั้นแล้วการสร้าง Connection เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นต้องค่อยๆ ทำ และสะสมไปเรื่อยๆ
เพราะคงดูไม่ดีแน่หากคุณเข้าไปตีสนิทกับคนบางคนและนึกถึงเขาเมื่อต้องการประโยชน์อะไรบางอย่าง
เพราะ Connection ต้องใช้เวลาสะสมนานหลายปี รวมถึงคุณต้องให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆ ก่อนด้วยเช่นกัน
อย่าหางานใหม่โดยใช้อารมณ์
บางครั้งความรู้สึกที่อยากหางานใหม่มักเกิดจากความรู้สึกเบื่องาน และไม่พอใจงานที่ทำอยู่
จนกลายเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณตัดสินใจเปลี่ยนงาน แต่แน่นอนว่าความรู้สึกเบื่อ และไม่พอใจ
ย่อมสร้างอารมณ์ที่เป็นลบเมื่อพูดถึงงานที่ทำอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะในการสัมภาษณ์งาน
ที่ผู้สัมภาษณ์ก็ต้องถามว่าทำไมถึงลาออกจากงานที่ทำอยู่ ทำไมถึงอยากเปลี่ยนงาน
ถ้าคุณอธิบายโดยใช้อารมณ์เป็นหลัก อาจทำให้โอกาสที่ได้งานลดลง เพราะบริษัทต่างๆ
ย่อมอยากได้พนักงานที่มีความรู้สึกในแง่บวกมากกว่าอยู่แล้วหากคุณรู้สึกไม่พอใจกับงานที่ทำอยู่
อย่างแรกที่ควรทำคือลองพิจารณาดูก่อนว่าจริงๆ แล้วคุณไม่พอใจเนื้องานที่ทำ หรือไม่พอใจปัจจัยอื่นๆ
เช่น ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานกันแน่ บางครั้งคุณอาจสามารถแก้ไขปัญหาความไม่พอใจได้ โดยไม่ต้องลาออกจากงานก็ได้
เปลี่ยนความไม่ชอบเป็นเครื่องมือปรับปรุงตัวเอง
บางครั้งการทำงานภายใต้ปัญหา และความรู้สึกไม่ชอบอาจกลายเป็นโอกาสที่คุณจะได้พัฒนา
ความสามารถด้านต่างๆ ของตัวเอง ทั้งการสื่อสาร การต่อรอง และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
ซึ่งจะได้จากการเจรจา และต่อรอง รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงาน โดย
บางครั้งหากการทำงานมีภาพรวมที่ดีขึ้น คุณอาจไม่จำเป็นต้องคิดหางานใหม่อีกแล้วก็ได้