
ทุกคนทำงาน เก็บเงิน เพราะไม่ว่าใครก็อ ย า ก มีเงินเหลือ มีเก็บมีกินทั้งนั้นแต่พอถึงขั้นลงมือทำ
บางครั้งรู้ตัวอีกทีก็เหมือนใช้เงินจนเหลือเงินเก็บนิดเดียวแล้วไงจากนี้ไป เพื่อสร้างความมั่นคงให้
ชีวิต เราจึงมีเทคนิคที่ทำได้ในชีวิตประจำวันด้วย 16 วิธีเก็บเงินเหล่านี้ มาดูกัน
1 ยกเลิกการเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ใช้งาน
เช่น พวกฟิตเนส ที่สมัครไว้เพราะ อ ย า ก หุ่นดีแต่อย่าลืมว่าคุณสามารถต่อ
อายุการเป็นสมาชิกในภายหลังได้ ถ้าไม่ได้ไปจริง ๆ ก็ยกเลิกไป
2 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ร้านค้าหลายร้าน มีสิ่งพวกนี้ก็ขออย่าละเลยเพราะบางที
อาจได้รับเช็คของขวัญบัตรกำนัลดี ๆ ไรงี้ที่ทำให้ประหยัดได้อีก
3 แบ่งประเภท งบประมาณ ลำดับ
ความสำคัญแต่ละอย่างไปเพราะมันจะทำให้เราเห็นงบรายจ่ายทั้งหมดหลัง หั ก เงินออม
ก็เพราะเมื่อลงมือจริง ๆ นั้นหลายครั้งก็จ่ายไม่ได้จริง ตามที่หวังหรอกเพราะมักจะจ่ายให้กับ
‘สิ่งที่ไม่สำคัญ ที่เกิดขึ้นก่อนไง’ เช่น จ่ายให้กับค่าอาหารที่ อ ย า กทานก่อน ลืมคิดไปว่า
มีส่วนที่สำคัญที่จะตามมาในช่วงสิ้นเดือน อย่าง ค่าเช่าบ้านค่าน้ำ ค่าไฟ เหล่านี้
4 รายจ่าย ประจำ ที่ลดได้
ค่าอาหารนั้นเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่าย ที่มากพอสมควร ของชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้วิธีหนึ่ง
ที่จะลดรายจ่ายก็คือ การ ป ร ะ ห ยั ด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้มากสำหรับการลด รายจ่าย
ค่าอาหาร ก็ทำได้เช่น ทำอาหารทานเองจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อ หาก
เป็นครอบครัว ที่มีคนหลาย ๆ คน ก็จะประหยัดได้เยอะเชียว
5 ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณภาพดี
เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่ที่ควรลงทุนเพื่อความสะดวกสบายในภายภาคหน้า และ
ควรตระหนักถึงการประหยัดพลังงานด้วยไม่ใช้จะซื้ออย่างเดียว เพราะ
การประหยัดค่าไฟ ช่วยคืนเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยเลย
6 ตั้งต้นด้วยเงินออมไว้
บางคนคิดว่าเงินเก็บคือเงินที่เหลือ จากการใช้จ่าย รายได้ – รายจ่าย
เท่ากับเงินออมคิดแบบนี้ซึ่งถูกต้อง แต่มันก็ไม่ใช่แนวคิดตั้งต้นไง สำหรับคนที่ อ ย า ก
เก็บเงินเพราะเราไม่ควรมองเงินออมเป็นเงินเหลือ มันไม่ใช่ ควรมองเป็นเงินที่ถูก
“จัดหมวดหมู่”เอาไว้เราะเราควร หั ก เงินออม เก็บเอาไว้ก่อนเสมอ จากนั้น เราค่อยใช้จ่ายตามงบที่มี
7 บันทึกการใช้จ่าย ให้เป็นกิจวัตร
บางครั้งเราก็ไม่รู็ตัวว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้างจ่ายไปกับอะไรที่จำเป็นหรือไม่ก็ไม่รู้ปัญหา
นี้แก้ไขได้ ด้วยการจดบันทึกรายรับรายจ่ายให้เป็น นิ สั ย ทุกวันนี้มีแอปพลิเคชันมากมาย
ที่เกี่ยวกับการบันทึก รายรับ รายจ่าย ทั้งในi O S หรือจะเป็น A n d r o i d ให้คุณได้ใช้กัน
8 เลือกบัญชีธนาคาร ด อ ก เบี้ยดี ๆ
เพื่อสร้าง ผ ล ต อ บ แ ท น และ ก็ลองเลือกแบบ หั ก บัญชี แบบอัตโนมัติเท่านี้
ก็สามารถสร้างวินัยการออมได้แล้ว จะได้ไม่ต้องกังวลว่า เดือนนี้ออมเงินยังหว่าซึ่ง
วิธีนี้ ง่ายต่อการไปถึงเป้าหมาย ในการออมที่เราวางไว้ไง
9 อย่ามีเฉพาะ ออมทรัพย์
ฝากประจำหรือลง ทุ น บ้าง ไม่ก็ หั ก อัตโนมัติเพื่อสร้าง วิ นั ย การเก็บออม
จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเดือนนี้ได้ออมเงินหรือยัง ซึ่งวิธีนี้ง่าย ต่อการไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
10 อย่าซื้อเสื้อผ้าราคาถูก
ในการซื้อเสื้อผ้า ก็คือการเลือกเสื้อผ้า ที่ใช้วัสดุคุณภาพดี เพราะหากคุณซื้อเสื้อผ้า
ราคาถูกเนื้อผ้าไม่ดีแล้ว จะทำให้เสื้อผ้าเหล่านั้น เ สื่ อ ม ส ภ า พ เร็ว สุดท้ายคุณก็ต้องซื้อใหม่อีก
11 ใช้ระบบขนส่ง แบบสาธารณะ
การโดยสารด้วยรถสาธารณะนั้น ช่วยให้คุณประหยัดทั้งยังช่วยประหยัดพลัง
งานแทนการขับรถยนต์ส่วนตัวด้วยแล้วคุณก็จะพบว่า มันประหยัดได้ไปกว่าเดิมเยอะ
12 ใช้ ก ฎ 24 ชม. และ การเปรียบเทียบ
เวลาที่คุณ อ ย า ก ซื้ออะไรที่ราคาสูง ๆลองกลับบ้านไปไปคิดดูอีกสัก 24 ชม.
ก่อน ค่อยกลับมาซื้ออีกครั้ง เพราะถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่ อ ย า ก ได้มันแล้วไง
คำนวณราคาสิ่งของ ที่จะซื้อดูก็ได้ เทียบกับจำนวนค่าตอบ แทนรายวันของเรา
จากการทำงาน สิ่งที่สำคัญเลย คือการ“ไม่เครียด” เพราะถ้าเราเครียด จะยิ่งทำ
ให้คุณใช้เงินเปลืองโดยที่คุณเองก็ไม่รู็ตัวเราต้องค่อย ๆ ทำ
ค่อยเป็นค่อยไปแล้วคุณจะพบว่า เรามีเก็บมากขึ้น
13 อ ย่าคิดแค่ประหยัด
การออมเป็นสิ่งทีดี โดยเราควรตั้งเป้าหมายในการออมระยะสั้นเช่น ออมให้ได้
300 หรือมากกว่านั้นต่อสัปดาห์ จะทำให้เราไม่รู้ว่ามันเหนือบ่ากว่าแรง และ มีกำลัง
ใจในการทำแล้วควรวางแผนการ เ ก ษี ย ณให้เร็วที่สุด อ ย่ า
คิดแค่ทำงานไปวัน ๆควรลง ทุ น ในกอง ทุ น เอาไว้ก็ดี
14 หยุดใช้บัตรเครดิต
เพราะความสะดวก ของมันจึงทำให้ใช้เกินงบที่ตั้งไว้มาก จนทำให้เก็บเงินได้
ไม่ถึงเป้าสักที เทคนิคง่าย ๆ ในการยับยั้งชั่ ง ใจของเราเขียนข้อความเตือนตัวเอง
บ่อย ๆ บนกระดาษ แปะบนบัตรเครดิ ตเพื่อเป็นข้อความเตือนใจเรา ให้คิดก่อนซื้อ ในทุก ๆ ครั้งไงล่ะ
15 ลดรายจ่าย เรื่องเสื้อผ้า หน้าผม
เปลี่ยนสิ่งที่ไม่ใช้แล้ว เป็นเงิน เช่น เสื้อผ้าที่กำลังล้นตู้อยู่ บางคน
มีเสื้อผ้าเยอะแต่ใส่ไปไม่หมด ตัดใจแล้วขายต่อบ้างก็ดีนะ
16 อย่าบ้าสะสมอะไร
เพราะมันเป็น ของสะสมเป็น ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ มันก็จริงนะแต่ยังไงซะ ใครที่เป็น
นักสะสม ก็มักจะเต็มไปด้วยรายจ่ายที่ตามมามากมาย ถ้าคุณไม่หยุดตัวเอง เมื่อมอง
ย้อนกลับมา คุณอาจพบว่ามีของสะสมอยู่มันเต็มบ้านไปหมด แล้วเงินในบัญชีกลับว่าง ไม่เหลือสักบาท