
ในสังคมที่ต้องแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน จะหาใครสักคนที่จริงใจนั้นยากสังคมที่มีแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน
รู้หน้า…แต่ไม่รู้ใจ และความคิดของเขาบางคนต่อหน้าทำดีด้วย พูดดีด้วย แต่ลับหลังกลับเอาไป นิ น ท า ว่ า ร้ า ย
ถึงแม้ว่าคุณจะทำดีกับเขา แต่ใช่ว่าเขาจะทำดีกลับมาหาคุณถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยพูดจาให้ ร้ า ย ใครเลยก็ตาม
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่มีใคร นิ น ท า คุณเลยเช่นกันจงเรียนรู้ที่จะเชื่อใจคนให้เป็น อย่าไว้ใจ
หรือ ให้ใจใครมากจนเกินไปเรื่องส่วนตัว ไม่จำเป็น ก็อย่ามาป่าวประกาศให้คนอื่นรู้มากเกินไป
ธรรมชาติของ “ตา” มองไม่เห็นถึง “ใจ” ดังนั้น..ธรรมชาติของ “ใจ”.. ก็ไม่ควรเชื่อใจใครด้วย “สายตา”
เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่เข้ามาหาเรา เขาคิดอะไรอยู่เขาเข้ามาเพราะความจริงใจ หรือด้วยผลประโยชน์แอบแฝง
คนที่กำลังยิ้มให้คุณ หรือทำดีกับคุณอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจริงใจกับคุณเสมอไปหรอกนะ
ในสังคมที่มี “หน้ากาก” ใบหน้าฉาบด้วย “รอยยิ้ม”แต่ภายใต้หน้ากาก อาจจะซ่อนอะไรไว้อยู่ก็เป็นได้
ไม่ได้บอกให้ระแวง จนไม่กล้าทำความรู้จักใครแต่ควรระวัง และเผื่อใจ อย่าไปคาดหวังอะไรมากในการคบคน
โลกสวยมากไประวังจะกลายเป็น “โลกมืด”ความเปลี่ยนแปลง..มันก็แค่เรื่องธรรมดาของโลกใบนี้
แม้แต่ใจเรา…ยังเปลี่ยนได้ แล้วจะคาดหวังอะไรกับ…ใจคนอื่นวันนี้ “รัก” พรุ่งนี้ “เ ก ลี ย ด” วันนี้ “หวังดี”
พรุ่งนี้อาจจะ “ทำ ร้ า ย” เราก็ได้ความเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เรา เ จ็ บ ป ว ด แต่เราก็ต้องเข้มแข็ง อดทน
โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ชีวิตมันก็ไม่ง่ายหรอกแต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป มีผสมๆ กัน เป็นรสชาติของชีวิต
เพราะฉะนั้น ให้ไตร่ตรองให้ดี ก่อนที่จะเปิดใจ และไว้ใจใครให้ไปเท่าที่ได้รับ ดีมา ดีกลับ แบบแฟร์ๆ
แต่ถ้าคบแล้วมีแต่ “เ สี ย” ก็ไม่จำเป็นต้อง “แลก”มิตรแท้ …หรือ… ศั ต รู จะเผยให้เห็นชัดเจนที่สุดตอนที่คุณ ” ล้ม ”
ถ้าไม่ใช่ตัวจริงของเขา สักวันคุณก็จะรู้เอง ว่าเขา “หวังดี” หรือ “ประสงค์ ร้ า ย”