
ในยามค่ำคืนผัวเมียสูงวัยนั่งคุยกันอยู่ในกระต๊อบเก่าๆ นั่งบ่นเรื่องต่างๆไปเรื่อย“ การคิดบวก โลกสวย ก็คงมีแต่พวกคนรวย
คนที่อยู่สุขสบาย คนที่ไม่เคยเผชิญความลำบากในชีวิตเท่านั้นแหละที่ทำได้
ใครที่มีชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขอยู่แล้ว… คงไม่ไปเผลอทำอะไรให้ตนเองเดือดร้อนหรอก ”
บังเอิญเทวดาได้ยินคำสนทนาเหล่านี้จึงลงมานำพาทั้งคู่ไปอยู่ในคฤหาสน์สุดหรู
เทวดาบอกทั้งสองว่า… “ จงอยู่ที่นี่ให้สุขสบายที่สุดตามคำอนุญาตของพระเจ้า
อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างมีให้พร้อม แต่มีข้อแม้อยู่ข้อเดียว”
เทวดาชี้ไปที่ชามธรรมดาๆที่มีฝาปิดอยู่ใบหนึ่งบนโต๊ะ แล้วบอกว่า… “ ไม่ว่าเวลาไหน
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดฝาของชามใบนี้ออก มิเช่นนั้น พวกเจ้าก็จะถูกส่งกลับไปอยู่กระต๊อบเหมือนเดิม ”
ทั้งสองยิ้มรับอย่างมีความสุข มีเรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตในเมื่อบอกไว้แบบนี้ คงมีแต่คนโ ง่เท่านั้นที่จะไปทำแบบนั้น
ชีวิตที่แสนสุขดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีใครไปสนใจชามใบนั้นแน่นอนแต่ความสุขที่มากล้นสุดท้ายก็จะกลายเป็นเรื่องความเคยชิน
จนอาจกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ นานวันเข้าทั้งสองคุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่างทุกซอกทุกมุมในบ้าน
ยกเว้นชามใบนั้นที่ยังไม่เคยแตะต้องพวกเขาเริ่มเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่าแท้จริงแล้วมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในชามใบนั้น
ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
ในที่สุด วันนั้นก็มาถึง เมื่อลุงตะโกนออกมาด้วยความอึดอัดว่า… “ไม่ไหวแล้ว หากไม่เปิดฝาออกดู
เรานอนไม่หลับแน่ๆ เทวดาให้เราเยอะแยะขนาดนี้แล้ว จะมาสนใจอะไรกับแค่ชามใบนี้ใบเดียว”
ว่าแล้วก็เปิดฝาออกทันทีสิ่งที่ปรากฏ คือ ไม่มีอะไรอยู่ในชามและแล้วเทวดาก็ปรากฏตัวขึ้น… “
พวกท่านมีความสุขสบายร่ำรวยที่โหยหามาตลอดชีวิต แต่ก็ยังปล่อยวางกับชามธรรมดาๆใบนึงไม่ได้ เห็นไหมว่า…
กิเลสตัณหากับฐานะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน พวกเจ้าจะได้กลับไปอยู่กระต๊อบเหมือนเดิม กลับไปรับ ก ร ร ม ที่ตัวเองสร้างไว้ต่อเถอะ”
คนเรานั้นตอนมีชีวิตอยู่ในช่วงที่ลำบากก็มักไม่คิดถึงเรื่องอื่นแต่พอชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทาง ความสุขสบายเริ่มมี
ความใคร่นอกรูปแบบก็จะมาเยือน สำหรับคนที่เคยมีประสพการณ์ด้านนี้จะรับรู้ได้ว่า พอเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว
จะรู้สึกได้เลยว่ามันก็แค่นั้นเองแต่ไม่รู้ทำไมจึงหลงไปทุ่มเทให้กับเหตุการณ์นั้นมากมายก่ายกอง
มันก็เหมือนความอยากที่จะเปิดฝาของชามออกมาดูให้ได้แต่หลังจากเปิดแล้วก็จะรู้ว่ามันไม่มีอะไร
แต่สิ่งที่จะตามมาคือความวุ่นวาย ความเดือดร้อน ความยุ่งยาก สารพัดปัญหาจะตามมา
ชีวิตที่เคยสงบสุขของครอบครัวก็จะเปลี่ยนไปทันทีเพียงเพราะความอยากรู้อยากลอง
ในแต่ละวันได้ให้อะไรเรามามากมายแล้วไม่ว่าความสามารถ ความสุขสบาย ความรักจากคู่ชีวิต
ลูกๆที่น่ารัก ครอบครัวที่อบอุ่น แต่เมื่อเจอบ่อยๆเข้าก็จะกาลยเป็นความเฉยชิน ทำให้ดูน่าเบื่อ
อยากลองทำอะไรใหม่ๆ อยากหาประสบการณ์แปลกใหม่การมี ” เ มี ย น้ อ ย “ ก็เหมือนการพยายามเปิดฝาชามใบนั้น
สงสัย…? อยากรู้ว่าเปิดแล้วจะเจออะไร ถ้ามีใหม่แล้วจะดีกว่าเดิมไหมเป็น ” กิ เ ล ส “ เป็น ” จุ ด อ่ อ น “ ที่เราทุกคนต้องเผชิญ ต้องก้าวผ่านไปให้ได้
ความสุขทุกอย่างล้วนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ถ้าเรารู้จักเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งเดิมๆชามใบที่มีฝาปิดอยู่ คงไม่จำเพาะเจาะจงจะเปรียบเปรยถึงเรื่องเมียน้อยเท่านั้น
แต่ยังรวมเรื่องกิเลสตั ณหาอื่นๆ เช่น การ พ นั น ยา เ ส พ ติ ด เรื่องเงินเรื่องทองเหล่านี้มักเป็นสิ่ง ยั่ ว ยุ สำหรับมนุษย์ที่มี กิ เ ล ส อยู่มากมาย
หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะช่วยเตือนสติแด่คุณขอให้รู้จักหักห้ามใจตัวเองต่อสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามา
ซึ่งแท้จริงแล้ว สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรที่มีค่าสำหรับชีวิตเหมือนชามที่ว่างเปล่าเพียงแค่มีฝาปิดมันไว้ให้ลึกลับน่าค้นหา
ขอขอบคุณที่มาจาก : ขจรศักดิ์