
ทุกคนเมื่อถึงวัยที่ทำงานมีรายได้ต่างก็ต้องการที่จะเก็บออมเงินให้ได้เป็นเงินก้อนใหญ่
เพื่อที่จะนำไปใช้ทำอะไรอย่างที่เราต้องการในวันข้างหน้า แต่การที่คนเราจะเก็บเงิน
ได้มากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น จำนวนเงินรายได้ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต การวางแผนการเงิน เป็นต้นเมื่อพูดถึงเงินรายได้บางคนคิดว่า
มีรายได้มากจะทำให้เก็บเงินได้มาก แล้วคนรายได้น้อยอย่างเราล่ะต้องเก็บเท่าไหร่กว่า
จะได้เป็นเงินก้อนใหญ่เหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง ซึ่งที่จริงแล้วรายได้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้
คนเรามีโอกาสที่จะเก็บเงินได้มากหรือน้อยกว่ากัน แต่นอกจากรายได้แล้วก็มีปัจจัยอย่างอื่นด้วย
เช่น รายจ่าย หรือการใช้จ่ายของแต่ละคน หากรายได้มากใช้มากก็เหลือเก็บน้อย
แต่หากรายได้น้อยเก็บมาก ก็มีโอกาสที่จะเก็บเงินเป็นก้อนได้มากกว่าคนที่มีรายได้มากแต่
ใช้มากเสียด้วยซ้ำไปดังนั้นคนที่มีรายได้น้อยก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป ค่อย ๆ เก็บหอมรอมริบ
เท่าที่เรามี มีน้อยเก็บน้อย พอมีมากขึ้นเราค่อยเก็บมากขึ้น ค่อย ๆ บ่มเพาะนิสัยใช้จ่าย
อย่างพอเพียงและรู้จักอดออมให้เป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปเรื่อย ๆ นิสัยแบบนี้แหละที่จะทำให้
คนเราไม่มีวันจนและไม่มีหนี้ วันนี้เรามีวิธีเก็บออมเงินสำหรับคนมีรายได้น้อยมาฝากกัน
รับรองว่าทำตามนี้แล้วได้ผล สามารถมีเงินเก็บได้เยอะแน่นอนค่ะ
หักเงินเพื่อออมทันทีเมื่อได้รับเงินเดือน
การออมแบบหักเงินออมออกจากเงินเดือนก่อนเพื่อนำเข้าบัญชีธนาคารทุกเดือนเป็นวิธีที่จะทำให้
เก็บเงินได้ดีที่สุด โดยให้เราตั้งเป้าหมายว่าเราต้องการออมเดือนละเท่าไหร่มากน้อยไม่สำคัญขอเพียง
ให้เราเริ่มต้นออม เลือกเป้าหมายที่เราทำได้ไม่เ ค รี ย ด เงินออมรายเดือนควรอยู่ที่ประมาณอย่างน้อย 10%
ของรายได้ เช่น เงินเดือน 10,000 บาทก็หักไว้ออม 1,000 บาททุกเดือน 1 ปีก็จะมี 12,000 บาท ดีกว่าไม่ออมแน่ ๆ ค่ะ
เปิดบัญชีเงินฝากประจำ
เลือกเปิดบัญชีเงินฝากประจำที่ต้องฝากเงินทุกเดือน เช่น 1,000 บาท ทุกเดือน เป็นเวลา 24 เดือน
เงินฝากประเภทนี้นอกจากจะเป็นการบังคับให้เราเก็บเงินทุกเดือนแบบอัตโนมัติแล้ว
ยังเป็นเงินฝากที่ให้ด อ กเ บี้ ยสูงกว่าเงินฝากแบบออมทรัพย์และด อ กเ บี้ ยก็ปลอดภาษีด้วย
หากเงินเหลือให้ออมเพิ่ม
แม้ว่าเราจะหักเงินออมไว้แล้ว 10% ของเงินเดือน แต่บางเดือนเราอาจกินใช้น้อยทำให้มีเงินเหลือเพิ่ม
จากรายได้อีก ก็ให้เรานำเงินนั้นไปเก็บออมเพิ่ม เงินออมของเราก็จะมีมากขึ้น
ตั้งเป้าหมายการออมเงิน
เมื่อเริ่มต้นมีเงินออมแล้วให้เราตั้งเป้าหมายการออมของเราว่าเมื่อครบ 1 ปี หรือ 2 ปี เราอย ากออมเงิน
ให้ได้เท่าไหร่ ด้วยวิธีแบบนี้จะทำให้เรามีแรงจูงใจ ยกตัวอย่าง เราอาจตั้งเป้าเล็ก ๆ
ก่อนว่าปีแรกของการทำงานเราจะเก็บเงินให้ได้ 20,000 บาทเท่ากับเงินเดือน 2 เดือนเลยนะ
หากทำได้รับรองว่าภูมิใจแน่นอนค่ะ และเมื่อทำได้ก็ให้ค่อย ๆ เพิ่มเป้าหมายของเราขึ้นไปเรื่อย ๆ
เพราะถึงตอนนั้นรายได้ของเราก็น่าจะเพิ่มขึ้นแล้วเช่นกัน
ทำงานเพิ่มเพื่อหารายได้เสริม
การทำงานประจำมีข้อดีก็คือมีความมั่นคงมีรายได้ที่แน่นอน แต่หากรายได้น้อย เราสามารถใช้เวลา
ในช่วงที่ว่างจากการทำงานประจำเพื่อมาทำงานเสริมสร้างรายได้เพิ่ม ซึ่งช่องทางในการหาอาชีพเสริมเพื่อสร้าง
รายได้เพิ่มก็ต้องแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน บางคนชอบขายของก็อาจหาของไปขายตามตลาดนัดเสาร์อาทิตย์
บางคนชอบสอนพิเศษก็รับสอนพิเศษในเรื่องที่เราถนัดหรือมีความรู้ บางคนเก่งเรื่องทำขนม
ก็สามารถทำขนมเพื่อฝากขายตามร้านเบเกอรี่ใกล้บ้านได้
มีน้อยใช้น้อย
คนที่มีรายได้น้อยก็ย่อมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีรายได้น้อย หากอย ากเก็บเงินให้ได้ก็จะต้องประหยัด คือ
ใช้ให้น้อยด้วยแต่ก็ไม่ใช่ให้ถึงกับขาด เรียกว่าใช้อย่างพอเพียงจะดีกว่า ใช้ในสิ่งที่จำเป็น
ไม่ฟุ่มเฟือย ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ต้องทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะมีเงินเก็บได้
หาช่องทางล งทุ น
เมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งแล้วก็ต้องหาช่องทางล งทุ นเพื่อให้เงินนั้นงอกเงยเป็นรายได้ให้กับตัวเราได้
โดยการล งทุ นก็ต้องมีการกระจายความเสี่ ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ถือเป็นการใช้เงินให้ทำงาน
เป็นการใช้พ ลั งของด อ กเ บี้ ยทบต้นเพื่อชนะเงินเฟ้อให้ได้ การเก็บเงินแต่เพียงอย่างเดียวก็ไม่ดีเพราะเมื่อ
เวลาผ่านไปค่าของเงินก็จะค่อย ๆ ลดลง จึงควรต้องล งทุ นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีด้วยที่จริงแล้วคนที่มีรายได้
มากหรือน้อย วิธีในการเก็บออมเงินก็ไม่ต่างกันมากค่ะ หากอย ากทำให้สำเร็จ เพียงแต่คนที่มีรายได้มากหากไม่ใช้จ่าย
ฟุ่มเฟือยหรือมีภาระมาก ก็จะมีโอกาสเก็บเงินได้มากและถึงเป้าหมายได้เร็วกว่า ในขณะที่คนที่มีรายได้น้อยอาจ
ต้องใช้ความพย าย ามที่มากกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สำเร็จนะ คนที่ร่ำรวยในปัจจุบันก็ตั้งมากมายหลายคนที่เคยมีราย
ได้น้อยมาก่อน แต่ก็เป็นเพราะประหยัดและรู้จักเก็บหอมรอมริบจึงสามารถร่ำรวยขึ้นมาได้เช่นกัน