
ผมไม่เคยบอกว่าชีวิตนั้นมันง่ายเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไป
คือ อะไรก็ตามที่เราคิด หรือเราอยู่กับมันนานๆสุดท้ายมันจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราเป็นคนยังไง
ซึ่งทุกคนก็คงอย ากที่จะประสบความสำเร็จ มีความสุขกันใช่ไหมล่ะแต่วิธีการ “คิด” อย่างไรที่จะให้ได้
ผลลัพธ์แบบที่ต้องการเนี่ย มันย ากมากๆ หลายๆ คนเลยไม่ได้ทุ่มเทให้กับมันมากพอ (ก็เพราะมันย าก)
อธิบายได้ประมาณว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการคิด ไม่ชอบการตั้งเป้าหมาย เพราะเมื่อคิด คาดหวังแล้ว
ลงมือทำแล้วบางครั้งสุดท้ายผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นดังที่หวังไว้ก็เป็นได้ ฟังดูมันก็ เ จ็ บ ป ว ด เหมือนกันนะครับ
แต่ชีวิตก็แบบนี้แหละครับถ้าผมบอกว่ามีวิธีคิด 15 แบบที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของคุณไปตลอดกาลล่ะ?
พร้อมนะ มาดูกันทีละข้อเลย
1. คิดใหญ่ แต่ให้เริ่มทำจากจุดเล็ก
ต้องการที่จะสร้างบริษัทใหญ่โตไหม? ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณหมู่มากไหม?
ต้องการสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์กับคนทั้งโลกไหม? ต้องการเป็นเศรษฐีพันล้านไหม?
ซึ่งก็แน่นอน ทุกคน “อย าก” แต่มันจะไม่มีทางที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ถ้าเกิดเรามีความคิด
บางอย่างแบบด้านล่างขวางกั้นตัวเองเอาไว้ มันย ากเกินไป ทำไม่ได้หรอกมันมีคนทำไปเรียบร้อยแล้ว
เราสู้เขาไม่ได้หรอก แล้วมีอะไรดีขึ้นไหมล่ะ? เราต้องวางเป้าหมายให้สูงเข้าไว้สิ ยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว
ความล้มเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเหมือนกัน แค่ให้แน่ใจว่าเราเริ่มทำจากสิ่งเล็กๆ
หมั่นทำมันบ่อยๆ ให้คิดว่าสิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก
แต่ถ้เราาตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไป ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบต่ำๆ เช่นกัน
2. ปัญหาต่างๆ ก็เป็นแค่คำถามที่ยังหาคำตอบไม่เจอ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาคนเราชอบตื่นตระหนกเวลาเจอปัญหาใหญ่ๆ บางคนก็บอกว่า “มัน เ ล ว ร้ า ย ที่สุด
ตั้งแต่เคยเจอมาแล้ว” ทุกครั้งๆ ที่เราใส่ความคิด เ ค รี ย ด ๆ แบบนี้ก็เหมือนกับการบั่นทอนชีวิตของเราเองไปเรื่อยๆ
จนพังทลายลงไปในที่สุด ให้เราคิดแบบนี้แทนว่า ปัญหามันก็แค่คำถามธรรมดาของชีวิตหรืออาจจะย ากบ้าง
ที่ยังหาคำตอบไม่เจอก็เท่านั้นเอง ให้เราใช้สติ พย าย ามหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น ก็เท่านั้นเอง
3. สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ให้มั่นคงด้วยความรัก
มีเหตุผลหลายๆ อย่าง ที่ทำให้มนุษย์ต้องออกไปแสวงหาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เช่น เรื่องเงิน
ความกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความต้องการให้คนอื่นสนใจในตัวเรา เป็นต้นซึ่งไหนๆ มันก็เป็นสิ่ง
ที่เราต้องทำอยู่แล้ว ก็ให้มองมันในรูปแบบของ “ความรัก” ซะเลย เพราะเมื่อเรารักใครเข้าแล้ว
เราก็คงไม่สามารถที่จะรู้สึก เ ก ลี ย ด เขาได้ในเวลาเดียวกันเพราะฉะนั้นความมั่นคงของความสัมพันธ์
ระหว่างเรากับผู้อื่นควรจะต้องมีพื้นฐานมาจาก ความรัก ความเคารพให้เกียรติ
การเชื่อใจกัน ความอดทน เพื่อนร่วมงานที่ดี เสียงหัวเราะ
4. ไม่มีของ ฟ รี ในโลก
ไม่สำคัญว่าเราจะทำอะไร แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ได้มา ฟ รี ๆ ในชีวิตแน่ๆ เราต้องจ่าย “เงิน” หรือ “เวลา”
โดยเฉพาะเวลาซึ่งเป็นทรัพย ากรที่มีค่ามากที่สุดและอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อแลกกับสิ่งที่เราต้องการ ชีวิตคนเรา
มันก็เหมือนการทำธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งนักธุรกิจเก่งๆ เขาใช้เวลาที่มีอยู่ทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ถามว่าเขาทำได้อย่างไร?
ตอบได้ง่ายๆ เลย คือ เขา “ประเมิน” ว่าสิ่งไหนทำแล้วคุ้มกับเวลาที่เสียไป ถึงจะทำ และรู้จัก “ปฏิเสธ” ในสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วย
เพราะการปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ถือเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่พวกเขาเหล่านี้จะทำเลยทีเดียว
5. อย่ากลัวที่จะตัดสินใจ
บางครั้งเราอาจจะคิดว่า การที่เราอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องตัดสินใจอะไรในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะทำให้
เราปราศจากความผิดพลาดแต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ อั น ต ร า ย ที่สุดก็คือการที่เราไม่ทำอะไรเลยเนี่ยแหละ เช่น
การรอคอยคนอื่นมาทำแทน การผลัดวันประกันพรุ่งการตั้งข้อสงสัยมากเกินไปแต่ไม่ลงมือทำ เป็นต้น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ช่วยให้ประโยชน์กับชีวิตเราขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อถึงเวลาจงกล้าที่จะตัดสินใจ
“เลือก” อย่างหนักแน่น ถึงแม้ถ้าท้ายที่สุดแล้วเราตัดสินใจผิด ก็ไปขอโทษ ขออภัยกัน
และเลือกตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ยังดีเสียกว่าไม่ยอมตัดสินใจเสียอีก
6. เป็นผู้นำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในบางครั้งคนเราเป็นผู้นำ บางครั้งก็เป็นผู้ตาม ตอนอยู่ที่ทำงานเราอาจจะเป็นผู้นำ และกลายเป็นผู้
ตามเมื่อกลับถึงบ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลย เมื่อเรารู้ว่า อะไรผิดและพบว่าคนอื่นๆ หันไปมองรอบๆ
เพราะไม่มีใครอย ากที่จะรับผิดชอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณกล้าที่จะ
แบกความรับผิดชอบไว้ นั่นแหละ คุณคือผู้นำที่แท้จริง มันคือคุณ
7. มีความรู้สึกที่เป็นเจ้าของ ในสิ่งที่ตนทำอย่างภาคภูมิใจ
มีสิ่งเดียวเท่านั้น ที่ช่วยให้คุณจากการที่ไม่มีอะไรเลย เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้
ก็คือ การทำงานเพราะฉะนั้นแล้ว เวลาทำงานใดๆ ก็ตาม ให้ทำอย่างเต็มที่ มีความคิด
ความรู้สึก เหมือนมันเป็นลูกของเรา แล้วผลลัพธ์จะออกมาอย่างดีเยี่ยมเอง
8. มองตัวเองเหมือนเป็นพนักงานข าย
จริงๆ แล้วทุกคนก็คือพนักงานข ายนั่นแหละ อย่างเช่น เวลาคุณไปออกเดทกับหนุ่มหรือสาว
คุณก็จะข ายใสสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองทำ พย าย ามทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจในตัวคุณให้ได้หรือในการ
สมัครงานก็เช่นกัน คุณต้องทำให้บริษัทเชื่อให้ได้ว่า ถ้าเขารับคุณเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ผิดหวัง
เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อใดก็ตามที่คุณ “ข าย” จงทำตัวให้โปร่งใส ซื่อสัตย์ และเลือกเป้าหมายที่คุณจะ
“ข าย” ให้ถูกด้วย ไม่ต้องไปเสียเวลากับคนที่ไม่ชอบคุณการข ายไม่ใช่การมานั่งคิดว่าจะมี
คนที่ไม่ชอบสินค้าหรือตัวคุณมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นการมองหาคนที่ใช่ต่างหาก
9. ถ้าอย ากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง จงหมั่นฝึกฝน
ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปเสียเวลามากกับ
การหาแรงบันดาลใจจากที่อื่นเช่น หนังสือ โพส t a l k เป็นต้น ให้จำไว้เลยว่า การที่คุณจะมี
ความมั่นใจในการทำสิ่งใดๆ มันเกิดจากเรียนรู้ ลงมือทำ วิเคราะห์ผลลัพธ์นำมาปรับปรุงแก้ไข
หลังจากนั้นก็วนลูปแบบเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะความมั่นใจ
นั้นมันจะค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ ทุกวัน นั่นเอง
10. ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย
มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ถ้าคุณอยู่ลำพัง คุณจะ ต า ย
ก่อนเป็นอันดับแรก คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้แต่สุดท้ายคุณก็พย าย าม
ผูกมิตรกับคนอื่นไปโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้นแล้ว จงให้ความสำคัญกับเพื่อน
และยอมรับด้วยว่าเขาก็ต้องมีชีวิตในแบบของพวกเขาเช่นกันเมื่อระยะเวลาผ่านไป
เมื่อความคิดของคุณโตมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และมีเวลาน้อยลง
หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยนไปคุณเปลี่ยน ผู้คนเปลี่ยน แต่
มิตรภาพระหว่างคุณกับเพื่อนเท่านั้นที่จะยังคงอยู่เช่นเดิม
11. อย่าเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น
มนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องการมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับยอมรับจากคนอื่น ซึ่งพวกเขาก็จะพย าย าม
แสดงออกมาในสิ่งที่เราอย ากเห็น หรือทำให้เขาดูดีเพราะฉะนั้นแล้วอย่าเชื่อในทุกๆ เรื่องราวความสำเร็จ
ของคนอื่นที่คุณได้พบเจอมา ไม่ว่าจะเป็น Y o u t u b e r s , นางแบบต่างๆ ใน I n s t a g r a m ,
เศรษฐีเงินล้านจากการทำธุรกิจมันก็จริงอยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้นดูดี ไร้ที่ติ แต่จริงๆ แล้วคุณมองเห็น
แต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่คุณก็ห้ามไปมองพวกเขาใน แ ง่ ร้ า ย นะ แค่อย่าสนใจกับเปลือกนอกมากจนเกินไปก็พอ
12. เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิจารณ์
เวลามีใครก็ตามมาวิจารณ์คุณ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงที่ดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ คุณควรจะขอบคุณเขา
เพราะว่ามันเหมือนเป็นแหล่งพลังงานในการขับดันให้ชีวิตคุณก้าวต่อไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
คุณสามารถที่จะนำคำวิจารณ์เหล่านั้นมาพัฒนาตัวคุณ ผลิตภัณฑ์ของคุณ บริการต่างๆ ของคุณ
หรือถ้าในบางครั้งคำวิจารณ์เหล่านั้นมันฟังดู ไ ร้ ส า ร ะ เหลือเกินแน่นอนมันอาจทำให้คุณเกิด
อาการหัวร้อนได้ แต่มันก็จะเป็นพลังให้คุณพิสูจน์ว่า นายนั่นแหละที่ ไ ร้ ส า ร ะ ได้เช่นกัน
13. ถ้าคุณดูแล สุ ข ภ า พ ตัวเองไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถดูแลอะไรได้เลย
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่า คนเราไม่สามารถที่จะควบคุม ร่ า ง ก า ย
เราให้ได้ดั่งใจ 100% เต็มทำได้ดีสุดก็แค่ กิน อ า ห า ร ที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และอย่าใช้
ร่ า ง ก า ย ตัวเองหักโหมจนเกินไป พั ก ผ่ อ น เ สี ย บ้ า ง และไม่ใช่ว่าทำแค่ไม่กี่วันแล้วเลิก
แต่ควรจะทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วย ถ้าบอกว่า “เวลา” ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
“ สุ ข ภ า พ ” ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกเนอะ
14. จงเลือกที่จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา
มีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นที่ควบคุมความคิดของตนเองได้ ซึ่งมันส่งผลกับสิ่งที่คุณจะทำต่อไปในภายภาคหน้า
ถ้าคุณเลือกที่จะไม่พอใจ โกรธ สิ้ น ห วั ง นั่นแหละ คือ ตัวคุณเองในอนาคตบางครั้งคนเราก็มีความคิดที่ว่า
“ฉันไม่สามารถมีความสุขได้ ฉันต้องรวย ซื้ อรถหรูๆ ขับ มีบ้านหลังใหญ่ๆ อยู่” แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
คุณสามารถที่จะมีความสุขได้ในทุกๆขณะของช่วงชีวิต มันขึ้นอยู่กับมุมมอง
ชีวิตของคุณเองต่างหาก ว่าเลือกที่จะมองมันแบบไหน
15. สร้างบางสิ่งบางอย่าง
เมื่อคุณกำลังเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างในทางที่ดี ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไร แต่คุณกำลังทำมันแล้วนี่
คุณอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็ให้ความบันเทิงกับพวกเขาเหล่านั้นได้ มองยังไง
ก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้ว จงอย่ารอที่จะบริโภคข้อมูล สินค้า หรือความบันเทิงต่างๆ
จากคนอื่นเพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อคนอื่นบ้าง ซึ่งไม่จำเป็น
ต้องทำคนเดียวก็ได้ ทำกันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม ก็ว่ากันไปซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณ
หรือเพื่อนคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ขอแค่ทำตนเองให้มีประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว ก็คร่าวๆ
ประมาณนี้แหละครับ ย าวพอสมควรเลยทีเดียว อย่าลืมนะครับความคิดของเราจะเป็นตัวกำหนด
ชีวิตของเรา เพราะฉะนั้น จงเลือกให้ดีครับ สำหรับวันนี้ลากันไปเพียงเท่านี้ก่อน พบกันใหม่ บทความหน้า สวัสดีครับ