
ความจนเป็นคำตรงข้ามกับความร่ำรวย ซึ่งมีวิถีการใช้ชีวิตแตกต่างราวฟ้ากับดิน ความจนทำให้ชีวิตต้องกระเสือกกระสน
สะสมความเ ค รี ย ดกับการเป็นหนี้สิน กับคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานขาดความร่าเริงในชีวิตเพราะมัวแต่คิดว่าเมื่อไรจะรวยเสียที
เชื่อว่าไม่มีใครชอบความจน ส่วนความรวยนั้นให้ไลฟ์สไตล์ที่นำความสุขมาให้ตนและครอบครัว จะไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย
ที่อยู่ที่กินล้วนอุดมไม่ขาดแคลน อย ากไปเที่ยวก็ได้ไป ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากว่าจะต้องหมุนเงินหรือไปกู้ยืมใครมาใช้หนี้ดี
ความจนกับความรวยหรือคนจนกับคนรวยจึงมีความแตกต่างกันมาก
แน่นอนว่าคนเราจะจนได้นั้นก็ต้องมีสาเหตุ อาจเนื่องมาจากพฤติ ก ร ร ม การใช้ชีวิตการใช้จ่าย ความคิดและอื่น ๆ มากมายที่นำเราไปสู่ความจน
อาทิ การใช้จ่ายเงินเกินตัว การบริหารเงินไม่เป็น การฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย การไม่รู้จักประหยัด การเห่อซื้ อ
ของตามเพื่อน การอย ากได้เกินฐานะจนต้องไปกู้หนี้ยืมสินแล้วไม่สามารถใช้คืนได้
การกินอยู่ที่ไม่พอดี และอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุแห่งความย ากจนทั้งสิ้น เมื่อคุณรู้สาเหตุคุณก็กลับไปแก้ที่ต้นเหตุ
และค่อย ๆ พัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น รับรองว่าความจนจะต้องพากันสลายตัวออกจากชีวิตของคุณอย่างแน่นอน เรามาดูหลักการใช้ชีวิตเพื่อหลีกหนีความจนกัน
1.อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด
ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้หากเราไม่ปรับตัวยังใช้ชีวิตหรูหราเกินฐานะ ความจนจะมาเยือนและไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอน
ให้คุณท่องคำว่าอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดเอาไว้เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คุณมีเงินงอกเงยจากการประหยัดนั้น
ถึงแม้จะเป็นเงินไม่มากแต่เป็นการเพาะนิสัยให้ขย ายไปทุกพื้นที่ของชีวิต และต้องยอมรับว่าเศรษฐีหลายคนก็ยัง
ยกย่องว่าความประหยัดเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่นำพาชีวิตพวกเขาให้ประสบความสำเร็จ
2.มีความขยันขันแข็ง
ปัจจุบันงานก็หาย ากมีข่าวการปลดพนักงานออกมาเนือง ๆ ทำให้หลายคนไม่มั่นใจว่าจะเป็นตนในวันใดวันหนึ่งหรือไม่
หากคุณทำงานประจำ แน่นอนว่าต้องโชว์ความขยันขันแข็งให้เจ้านายเห็นเพื่อเป็นจุดแข็งให้คุณในย ามที่ต้องประเมินผลงาน
ความขยันขันแข็งตรงข้ามกับความขี้เกียจ คงจะไม่มีหน่วยงานไหนที่อย ากได้คนขี้เกียจ เรียกใช้ย าก ผลงานน้อยเข้าทำงานแน่
ซึ่งหากคุณโดนให้ออกจากงาน นั่นแหละ คุณจึงจะรู้ว่างานคือเงิน และไม่มีงานก็ไม่มีเงินนั้นเอง
3.สร้างนิสัยรักการออม
เมื่อคุณมีวินัยในการออมเงิน ผลที่ได้ย่อมนำความชื่นใจมาให้ เพราะคุณจะเห็นยอดเงินออมเพิ่มขึ้นทุกเดือน และนับว่าเป็นนิสัยของ
เศรษฐีที่มักจะคิดเรื่องเงินออมก่อนเสมอ อย่างน้อยก็อุ่นใจที่มีเงินก้อนหนึ่งที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากคนที่ไม่คิดจะออมเงินจากรายได้ของตนเลย
มีเท่าไรใช้หมดแถมใช้เงินเกินจากที่ได้รับด้วย อย่างไรก็พบกับความจนเรื้อรังแน่นอน คุณสามารถเริ่มต้นคิดถึงเงินออมได้ตั้งแต่บัดนี้
และลงมือทำจากจำนวนเงินน้อย ๆ ก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่มจนถึงจุดที่คุณพอใจในแต่ละเดือน เพียงทำเท่านี้ชีวิตของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
4.ยึดหลักความพอดี
ไม่ว่าจะกินจะใช้หากไม่อย ากจนเงินติดลบก็ต้องนำหลักความพอดีมาใช้ คุณควรบริหารเงินเป็นสัดส่วนกินและใช้อย่าง
เหมาะสมไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป พอดีพอดี บางคนชอบกินของแพงถ้านาน ๆทีคงไม่เป็นไรแต่หากเน้นกินของแพงทุกวันเพราะ
ชอบอย่างนี้อร่อยลิ้นแต่ต้องมานั่งเ ค รี ย ดกับเงินไม่พอใช้อย่างแน่นอน ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับเงินคุณจะต้องคิดให้มาก ๆ ไม่ใช่อะไรก็ได้
เพราะเงินเวลาใช้นั้นเร็วแต่เวลาหานั้นย ากและนาน จะทำอะไรที่เกี่ยวกับเงินก็ต้องฉุกคิดไว้ก่อน
5.มองหาการล ง ทุ น
ข้อนี้สำคัญมากเลยที่จะทำให้คุณเลื่อนฐานะการเงินขึ้นมาได้ คนรวยมักชอบมองหาการล ง ทุ น คุณก็ต้องมองหาการล ง ทุ น
ด้วยเช่นกัน ซึ่งการล ง ทุ น มีมากมายหลายประเภทที่จะทำให้เงินของคุณงอกเงยขึ้น แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องหาความรู้เรื่องการล ง ทุ น ในกิจการนั้น ๆ
ก่อนเพื่อลดความเ สี่ ย ง เรียกว่าล ง ทุ น อย่างชาญฉลาด ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จจากการล ง ทุ น ทำให้การเงินฟื้นตัวและพลิกกลับมาเป็นคนรวยได้
6.บันทึกบัญชีการเงิน
เรื่องการบันทึกบัญชีมีผลต่อชีวิตจริง ๆ การบันทึกบัญชีการเงินเป็นการแกะรอยการเงินทุกฝีก้าวว่าเงินไปไหนได้มาเท่าไรทำให้
คุณวางแผนการเงินจากสมุดบันทึก ซึ่งดีกว่าแค่จำ ๆ ในส ม อ ง หลักการบันทึกบัญชีคือให้คุณบันทึกเงินเข้าออกทุกเม็ดเงินไม่ให้ตกหล่น
ตามความเป็นจริง แล้วขีดเส้นสรุปรายวัน และทำรายเดือนอีกครั้ง เพียงเท่านี้คุณจะเห็นร่องรอยการเงินของคุณและมีสติมากขึ้น
การบันทึกบัญชีรับ-จ่ายจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้นอีกด้วย
7.หมั่นหาความรู้เสมอ
คุณต้องทำตัวให้กลายเป็นผู้หิวกระหายในความรู้เพื่อนำมาต่อยอดไอเดียในการพัฒนาชีวิตและรายได้ของตน ซึ่งความรู้
มีหลายประเภท อาทิ ความรู้ในอาชีพต่าง ๆ ความรู้ในเรื่องการล ง ทุ นความรู้ในเรื่องการเงิน เป็นต้น และปัจจุบันความรู้ ต่าง ๆ
เหล่านี้ก็แฝงตัวอยู่ทุกที่ให้เราเก็บไปบางแห่งไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด เช่น ในอินเตอร์เน็ต ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ
มีความรู้มากมายรอให้เราไปค้นไปคว้าและไปเก็บมาแบบให้เปล่า อยู่ที่ว่าเราจะเห็นคุณค่าของความรู้นั้น
แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาชีวิตของตนให้พ้นจากความจนหรือไม่
ต้องยอมรับว่าการใช้ชีวิตของแต่ละคนนำมาซึ่งความร่ำรวยหรือความย ากจนที่แตกต่างกัน ทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นยังเป็นคำกล่าวที่เตือนใจ
ได้เป็นอย่างดี หากเราสร้างเหตุดีผลก็ย่อมดีตาม มาเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่นำความรุ่งเรืองให้ชีวิตดีกว่าจะได้ไม่ถูกประทับตราว่าเป็นคนจนแบบถาวรอีกต่อไป
ที่มา : m o n e y h u b