
คนที่มีความสุข : รู้มาก แต่พูดน้อยเท่าที่จำเป็น ไม่โอ้อวด
คนที่มีความทุกข์ : รู้น้อย แต่ชอบคุยโม้โอ้อวดเพื่อกลบเกลื่อนความไร้สามารถในเรื่องอื่นๆ
คนที่มีความสุข : เห็นความดีและความสามารถทั้งของตัวเองและผู้อื่น พูดชื่นชมคนอื่นทั้งต่อหน้าลับหลัง
คนที่มีความทุกข์ : ชอบนินทาว่าร้ ายผู้อื่น หยิบยกความผิดของคนอื่นมาบดบังความชั่ วร้ ายของตนเอง
คนที่มีความสุข : เห็นความบกพร่องของตนเอง และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข
คนที่มีความทุกข์ : มองข้ามความบกพร่องของตัวเอง แต่เชี่ยวชาญในการจับผิดเรื่องของคนอื่น
คนที่มีความสุข : มีความเห็นอกเห็นใจคนที่ด้อยกว่า อย ากช่วยเหลือ
คนที่มีความทุกข์ : ถนัดในการซ้ำเติมความผิดของผู้อื่น ชอบเอาปมด้อยคนอื่นมาล้อเลียน
คนที่มีความสุข : มีจิตใจที่เมตตา เมื่อเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จก็ชื่นชมยินดี
คนที่มีความทุกข์ : ช่างอิจฉาริษย า เห็นคนอื่นได้ดีแล้วตัวเองเจ็บปวด
คนที่มีความสุข : อ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น
คนที่มีความทุกข์ : มักก้าวร้าว เย่อหยิง ยโสโอหัง พูดจาขวานผ่าซาก ไม่รักษาน้ำใจคน
คนที่มีความสุข : อย า กเรียนรู้จากคนอื่นในเรื่องที่ตนเองยังไม่รู้ เปิดใจรับฟัง
คนที่มีความทุกข์ : ชอบทำตัวเหนือกว่าคนอื่น รับไม่ได้ว่าคนอื่นเก่งกว่าเราในบางเรื่อง
คนที่มีความสุข : จะแก้ไขปัญหาอย่ างสันติและสร้างสรรค์
คนที่มีความทุกข์ : มักใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
คนที่มีความสุข : มีความเสียสละ คิดถึงประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก
คนที่มีความทุกข์ : เห็นแก่ตัว ชอบเอาเปรียบผู้อื่นเมื่อมีโอกาส
คนที่มีความสุข : เป็นแหล่งกำเนิดของความสุขแก่ผู้ใกล้ชิด ใครเข้าใกล้ก็รู้สึกถึงความสุข
คนที่มีความทุกข์ : เป็นมลพิ ษของคนรอบข้าง ใครอยู่ใกล้มักอึดอัด รำคาญ ได้ยินแต่เรื่องร้ ายๆ
ทุกคนมีจุดเด่นของตัวเอง มีคุณค่าในตัวเองและมีความสามารถในตัวเองการรู้สึกว่าตัวเองแย่ ต้องคอยหา
“ข้อลบ” ของคนอื่น เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเอง “เหนือกว่า”ไม่เคยมองเห็น “ข้อบกพร่อง”
ของตนเองที่สุดแล้วก็ไม่มีการพัฒนา…มันมีแต่ทำร้า ยตัวเอง ไม่ใช่รักตัวเอง
มีแต่เพิ่มความทุกข์ให้ตัวเอง ไม่ใช่การทำให้ตัวเองมีความสุข
Cr. ต้นฉบับบทความจาก Rich Infinity