
ในแต่ละวัน เราอาจต้องพบเจอผู้คนมากมาย คนเหล่านี้อาจเป็นคนที่เคยทำอะไรไม่ดี ให้เราเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน
เป็นต้นเหตุให้เราอารมณ์เสีย รู้สึกไม่ดี หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เจอ แต่ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น
คนที่ไม่ทุกข์ ไม่มีกรรม คือคนที่ไม่เกลียด ไม่เคียดแค้นใคร ใครให้อภัยก่อนก็มีความสุขในชีวิตก่อน
คุณต้องเข้าใจว่า “ให้อภัย” กับ “ให้โอกาส” มันคนละส่วนกัน ให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาส
ให้อภัยแต่ไม่กลับไปคบ ไม่กลับไปสุงสิงด้วย เราเลือกที่จะเก็บ หรือไม่เก็บคนบางประเภทไว้ในชีวิตได้
การให้อภัย คือการยกโทษทางจิตใจ ในสิ่งที่เขาทำผิดต่อเรา ช่วยให้ความโกรธแค้นของเราบรรเทาลง
เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเขาได้ เราจึงให้อภัย ให้อภัยโดยไม่ขึ้นกับว่า คนที่ทำผิดนั้นจะเป็นอย่างไร
จะเสียใจ จะชดใช้ จะรับโทษหรือเปล่า เราไม่ต้องไปสน แต่เราก็ให้อภัยเขาได้ เพื่อปลดปล่อยความแค้นออกจากใจเรา
ปล่อยความคิด ความรู้สึกด้านลบให้ออกไปจากเรา เพิ่อที่เราจะไม่ทุกข์ บางครั้งเราไม่ให้อภัยบางคน
เพราะคิดว่าเราทำไม่ได้ หรือไม่เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากให้อภัย เราจะเก็บความโกรธแค้นนี้ไว้
เพราะเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย แต่ในขณะเดียวกันนั้น เรากลับไม่รู้ตัวว่าจิตใจที่โกรธแค้นของเรา
มันมาพร้อมกับความทุกข์ และทำร้ายเราอย่างช้าๆ คนที่ทำผิดกับเรา เขาไม่ได้มารู้สึกกับเราด้วยเลย
การให้อภัย ทำให้เราได้ชีวิต และความสุขของเรากลับคืนมา หากอยากอยู่อย่างสบายใจ
อยากมีชีวิตที่สงบสุขมาก ต้องฝึกใจ เลิกยุ่ง เลิกมอง รักษาระยะห่าง เท่าที่เราสบายใจ
เรียนรู้ที่จะไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไป เกลียดก็อย่าไปมอง ไม่ชอบก็อย่าไปดู หากไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไป
ก็ไม่มีใครมาทำให้เราหงุดหงิดได้ ลองท่องไว้ ไม่โกรธ ไม่เกลียด และไม่เฉียดเข้าไปใกล้
ให้อภัยเขา เราสุข โกรธเขา เกลียดเขา เราทุกข์เอง คนที่ทำได้คือผู้ชนะ ไม่ใช่พ่ายแพ้