
ทำงานหนัก งานเยอะ จุกจิก วุ่นวาย แต่รายได้สวนทาง ถึงขนาดที่บางคนอุทานว่า “นี่เงินเดือนหรือเงินทอน”
สิ่งเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้อย่างดี สถิติของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ อยู่ใน
ภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง บางคนเดือนชนเดือนก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งเดือนก็แทบจะไม่มีกินกันแล้ว
1. เพิ่มเงินด้วยสูตร 30-45-25
สูตรจัดการเงินเดือนสำหรับคนบริหารเงินไม่เก่ง สำคัญคือเราต้องมีวินัยพอสมควรถ้าจะเลือกวิธีนี้ โดย 30 % คือ
เงินออม 45% คือรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน และ 25% คือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีเงินเดือน
เข้าบัญชี 15,000 บาท จะเป็นเงินออม 3,000 บาท รายจ่ายทุกเดือน 4,500 บาท ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 2,500 บาท
แต่ต้องมีคนแย้งแน่ๆ ว่า รายจ่ายต่อเดือนแค่ 4,500 จะไปพอได้ไง แล้วเดือนนึงจะให้กินแค่ 2,500 เองนี่นะ เข้าใจว่า
ทฤษฏีกับปฏิบัติมักจะสวนทางกัน คนส่วนใหญ่จึงทำแบบนี้ไม่ได้ด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง แต่วิธีนี้ก็เป็นไกด์ไลน์
แบบหนึ่งให้มนุษย์เงินเดือนได้ลองไปใช้ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติ ก ร ร ม ใช้เงินตัวเอง
จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ แต่อาจต้องใช้เวลาพอตัวเหมือนกัน
2. ออมเงินตามวันที่
การออมเงินตามวันที่ใช้ได้ทั้งแบบ 365 วันและแบบ 30 วัน วิธีการก็คือเก็บเงินตามวันที่ เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท
วันที่ 3 เก็บ 3 บาท ไปเรื่อย ๆ ใน 1 เดือนเราจะมีเงินจากวิธีนี้ เพิ่มขึ้น 465 บาท ดูเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะแยะอะไรเลย แถมบางคน
ยังบอกอีกว่าวุ่นวาย ถ้างั้นก็เอาเงิน 400-500 มาเก็บไว้เลยไม่ดีกว่าเหรอ แต่อย่าลืมว่าวิธีนี้คือการฝึกวินัยการออม ถ้าคุณบอกว่า
เก็บเงินมาเลยเดือนละ 400-500 อันนี้ก็ได้เหมือนกัน แต่คำว่าเงินออมคือเงินที่เราจะไม่เอามาใช้จน
กว่าจะจำเป็นจริงๆ จะใช้วิธีไหนก็ได้ถ้าคุณออมได้ ก็ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น
3. แบ่งเงินใช้ตามวัน
วิธีการที่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่นตั้งเป้าจะใช้เงินไม่เกินวันละ 150 บาท ก็แยกเงินออกมาไว้เลย หรือแบ่งเงิน 150 บาท ออกเป็น 30 ถุง
สำหรับใช้ 1 เดือน แล้วใช้แค่เท่าที่มี (อาจมีเงินสำรองติดตัวไว้หน่อยเผื่อเหตุฉุกเฉิน) ถ้าวันไหนเงินเหลือ ก็เอามาหยอดกระปุกเก็บออมเพิ่มได้อีก
4. ซื้อของฟุ่มเฟือยแค่ไหน ก็หยอดกระปุกแค่นั้น
บางทีห้ามไม่ได้ก็ต้องหาวิธีผสมผสานกันไปซะเลย บางคนเลิกไม่ได้กับการช็อปปิ้งซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นต่างๆ
ถ้าห้ามไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย แต่ทุกครั้งที่ซื้อของฟุ่มเฟือยไปก็ต้องมาหยอดกระปุกไปตามราคาของด้วย เช่น ซื้อเสื้อผ้า
มา 500 ก็ต้องหักใจเอาเงินอีก 500 ไปหยอดกระปุกด้วย แต่เชื่อว่าในกระบวนการออมเงินเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง
วิธีแบบนี้ยากที่สุดคงไม่มีใครทำได้ แต่ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ใครทำตามรับรองว่าได้ผลมีเงินเป็นก้อนในอนาคตแน่
5. เปิดบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีแบบ 24 เดือนหรือ 36 เดือน
วิธีนี้อาจไม่เพิ่มรายได้ภายใน 30 วัน แต่วิธีนี้ให้ผลตอบแทนดีโดยอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.25-3% ต่อปี
เป็นการบังคับให้เราต้องนำเงินไปฝากธนาคารทุกเดือน เดือนละเท่า ๆ กัน ตั้งแต่ 1,000-25,000 บาท
ยิ่งฝากเยอะ ยิ่งฝากนาน ก็ยิ่งได้ด อกเบี้ยเพิ่มขึ้น
6. ซื้อกองทุนรวมที่ไม่เสี่ยง
คนที่ไม่อยากฝากเงินไว้ในธนาคารเพราะด อกเบี้ยต่ำ อาจเลือกวิธีออมด้วยการซื้อกองทุนรวม ซึ่งได้ผลตอบแทน
ประมาณ 1% กว่า ๆ หรือจะเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่ความเสี่ยงต่ำก็น่าสนใจ ให้ผลตอบแทนราว ๆ 1-3%
เงินต้นก็ไม่หาย แต่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ด อกเบี้ยไม่เกิน 0.5% ด้วย
7.ลงทุนในแฟรนไชส์ราคาเบาๆ
การลงทุนมีความเสี่ยงเรื่องนี้ทุกคนเข้าใจ แต่ปัจจุบันการลงทุนกับแฟรนไชส์เป็นวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดมีหลาย
แฟรนไชส์ที่ให้เลือกลงทุนในแพคเกจสบายๆ ราคาไม่แรงเกินไป เริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ไปถึงหลัก 10,000 ต้นๆ
สำคัญคือแฟรนไชส์เหล่านี้มีอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบให้เราพร้อมเปิดร้านได้ทันที แต่คนลงทุนก็ต้องมีทำเลการลงทุนที่ดี
และต้องขยัน ตั้งใจทำจริงๆ อาจทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อยลง แต่ถ้าเห็นเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ก็คุ้มค่าที่จะเหนื่อย
8. ออมเงินเท่าค่ากาแฟ
ไม่ปฏิเสธว่ารายจ่ายของมนุษย์เงินเดือนส่วนหนึ่งหมดไปกับค่ากาแฟ ยิ่งแบรนด์ใหญ่ ราคายิ่งแพง แต่บางคนก็เลิกดื่มไม่ได้
และต้องซื้อทุกวัน แถมบางวันกินวันละ 2-3 แก้วอีกด้วย การออมเงินเท่าค่ากาแฟลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเราซื้อกาแฟแก้วละ 60 บาท
ทุกวัน ใน 1 สัปดาห์ (5วันที่ทำงาน) มีรายจ่ายส่วนนี้ 300 บาท ใน 1 เดือนทำงานประมาณ 20 วัน (จันทร์-ศุกร์)
รายจ่ายค่ากาแฟประมาณ 1,200 บาท ถ้าเปลี่ยนพฤติ ก ร ร ม การดื่มกาแฟไม่ได้ก็ลองเก็บเงินจากวิธีนี้ดูแล้วจะรู้ว่าได้ผลจริงๆ
9. เก็บแต่เงินเหรียญเท่านั้น
อย่าดูถูกพลังของเงินเหรียญเด็ดขาด เหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท ลองเก็บให้ได้รวมๆได้จำนวนมากเมื่อไหร่ได้นับ
กันจนเมื่อยนิ้วแน่ ถามว่าจะเก็บยังไงวิธีไม่ยาก แต่เอาเงินที่ได้จากการใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเงินทอนจากค่ารถ ค่าข้าว
ซื้อของร้านสะดวกซื้อ ส่วนใหญ่มีทั้งแบงค์และเหรียญรวมกันมา แยกไปเลยเอาแบงค์ไปใช้ แต่เหรียญทุกบาททุกสตางค์
เก็บเอาไว้ห้ามใช้ วิธีนี้ไม่เห็นผลทันทีแต่จะเห็นผลในระยะยาวที่สำคัญไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดเรื่องการใช้เงินในแต่ละวันด้วย
10. ลงทุนขายของออนไลน์
วิธีการออมเงินต่างๆ อาจจะไม่สร้างรายได้ในทันที ใครที่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน ลองเลือกขายของออนไลน์ดูน่าจะเข้ากับ
ยุคสมัยนี้มากที่สุด แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าสมัยนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีเกลื่อนเมือง สินค้าในอินเทอร์เนตมีให้เลือกมากมาย
การที่เราจะขายสินค้าอะไรก็ต้องรู้จักวิธีทำตลาด ให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของเรา รู้จักร้านค้าของเราในโลกออนไลน์
ซึ่งก็มีวิธีการโปรโมทและกลยุทธ์การตลาดมากมาย ถ้าเบื่อการออมก็ลองเลือกลงทุนแบบนี้ได้
ขอบคุณ prosoft