
คนเงินเดือน 15,000 เพิ่งเริ่มทำงานผมบอกได้เลยว่า ถ้าตั้งหลักกับการทำงานได้ดี
ไม่ต้องวอกแวกเรื่องอื่นแต่ใช้สมาธิกับงาน ดูว่าเราชอบงานหรือเปล่า ความถนัด
เราตรงกับงานที่ทำไหม ถ้าตั้งลำได้แล้วฝึกฝนพัฒนาทักษะ ให้ทำงานได้เก่ง
ได้เร็วได้ครบถ้วน เราจะได้ขยับขึ้นไปในกลุ่มเงินเดือนที่สูงกว่าได้เร็วครับพอเงินเดือนสูงขึ้น
ก็มีเงินใช้จ่ายได้มากขึ้น เองอย่าไปเสียสมาธิเพราะหนี้ที่เราก่อ
1.ค่าข้าว ค่าน้ำ
คำแนะนำคือ พ ย า ย า ม ควบคุมค่าใช้จ่ายรายวันนี้ ให้อยู่ในงบพึงระลึกไว้ว่าเงินที่เหลือถัดไป
จากก้อนนี้คืองบช้อปปิ้ง และ เที่ยวแล้วครับ ถ้าประหยัดตรงนี้ ได้จะมีเงินเหลือ
ให้ช้อปกินดื่มได้มากขึ้น สำหรับคนเงินเดือนเริ่มต้นผมแนนำ ให้ห่างไกลสิ่งเหล่านี้ครับ
เช่นกาแฟชานมไข่มุก แก้วละ 40บาท ถึง 140 บาท ไว้รวยแล้ว ค่อยกินครับกินกาแฟฟรี ในออฟฟิศไปก่อน
ถ้าเรากินกาแฟแก้วละ 50 ทุกวัน 20 วันต่อเดือนจะเป็นเงิน 1,000 บาท ครับมีค่าเท่ากับปาร์ตี้
มันส์ ๆ 1 ครั้ง บวกกับเสื้อผ้าแพลตตินัม 2 ชิ้น ขึ้นไป อีกตัวเลือกหนึ่ง ที่ใช้แก้ง่วงแทนกาแฟ
ได้ผมแนะนำ หมากฝรั่ง ครับ 1 กล่อง10 บาท มี 9 เม็ด กินได้ 2 วัน เฉลี่ยวันละ 5 บาท แก้ง่วงได้
แถมยังเพิ่มออกซิเจนให้ สมองด้วยครับอาหารกลางวัน มื้อแพง ๆ ถ้าไปกินกับพี่ ๆที่ทำงานให้พี่ ๆ
มันจ่ายไปครับถ้าพี่ไม่เลี้ยง วันหลังไม่ต้องไปกิน เราเงินเดือน 15,000 พี่เงินเดือน
50,000การใช้ชีวิตไม่เหมือนกันอยู่แล้วจะให้ไปกินแพง ๆ มื้อละ 100-200ขึ้นไป พี่ต้องเลี้ยง
2.เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ถ้าบริษัทของเรามีผมแนะนำให้ทุก ๆคนเลือกให้เขาหักสูงสุดครับอาจจะ3% หรือ 5% ก็สุดแท้
แต่สิ่งที่สำคัญคือเขาหักไปบริษัท จะสมทบให้อีกเท่ากัน เช่น หักไป 3% หรือ 450 บาท
บริษัทจะสมทบ ให้อีก 450 บาท แต่ถ้าให้หัก 5% 750 บาท เราก็ได้อีก 750บาท
เพราะฉะนั้น ยิ่งให้หักมาก เรายิ่งได้เงินมากครับ ส่วนนี้เป็นส่วนเงินออมแรกเลยที่ควรให้หักไปครับ
นอกจากได้สมทบเยอะ ยังช่วยเราออมเงินได้อีกด้วย ส่วนประกันสังคม
ไม่ต้องพูดถึงเพราะโดนหัก อยู่แล้วอัตโนมัติ
3 .เงินออม และ ให้พ่อแม่
คนที่ต้องให้พ่อแม่ ส่วนใหญ่ จะหักให้ไปก่อน อยู่แล้วแต่เจ้าเงินออมเนี่ยสิครับหลาย ๆ คนเอาไว้ทีหลัง
คือ มีเหลือเท่าไร ค่อยเก็บ ซึ่งผมบอกได้เลยว่ามันจะไม่เหลือเ พราะฉะนั้น ถ้า อ ย า กออมเงินจริง
เงินเดือน ออกปุ๊บ ให้รีบหยอดกระปุกเลยครับ แนะนำ ให้หาบัญชีฝากประจำแบบ สะสมเท่ากันทุกเดือน
จะได้ ด อ ก เบี้ยสูงหน่อยด้วยครับ ผมยังไม่แนะนำ การลงทุนอื่น ๆในขั้นนี้ เพราะเงินมันยัง
น้อยอยู่ครับลงทุนไป ก็ปวดหัว ต้องมาคอยเป็นห่วงว่าเงินลงทุนไป
ถึงไหนแล้ว เสียสมาธิกับ การทำงานอีก
4.ค่าใช้จ่ายประจำ
ตรงนี้ล่ะครับบอกได้เลย ว่าคน กทม.ที่อยู่กับครอบครัว กับคน ตจว.ที่มาเช่าห้อง อยู่ค่าใช้จ่ายต่างกัน
ฟ้ากับเหวครับ คนอยู่หอเดือนหนึ่ง โดนประมาณ 5,000 แน่ ๆ ค่าใช้จ่ายนี้ถ้าลดได้ ผมแนะนำให้ลด
เช่นค่าหอให้หารูมเมทมา แ ช ร์ คิดง่าย ๆ ค่าหอ4,000 ถ้าได้รูมเมทมา เ เ ช ร์ ครึ่งหนึ่งเราจะมีเงินไว้
เก็บหรือไว้ใช้อีก 2,000ต่อเดือนแน่ะทีนี้ถ้าใครบอก ไม่เอาชอบความเป็นส่วนตัว ก็ให้ลองคิดดูว่า
ค่าความเป็นส่วนตัว คุ้มกับ 2,000 ต่อเดือนหรือเปล่า ? ส่วนค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ 1,500
คงไม่ต้องบอกประหยัดได้ ก็ประหยัดมัน จะลดลงไปเองครับ ส่วนค่าเดินทางผมเอามาอยู่หมวดเดีย
วกันเพราะผมว่าตรงนี้มันควรคิดคำนวณ ด้วยกันเป็นภาพรวมครับ เช่นถ้าเรายอมจ่ายค่าหอแพงหน่อย