
ทุกคนล้วนมีภาระ และหน้าที่ที่แตกต่างกันไป รวมถึงภาระเรื่องเ งินๆทองๆก็เช่นกัน หลายคนอาจจำเป็น
ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อใช้จ่าย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรแต่ถ้าถึงคราว ต้องใช้คืน แต่ลูกหนี้กลับมีเ งินไม่พอ
หรือยังไม่พร้อมด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ ย่อมทำให้ลูกหนี้เอง เกิดความเครียด ท้อแท้มืดแปดด้านขึ้นมาได้
มาดูกันว่า มีวิธีอะไรบ้างที่จะเตรียมใจเราให้พร้อมรับมือกับปัญหาหนี้สินได้ โดยไม่เครียด
1.ยอมรับความจริง!
ทุกปัญหาจะแก้ได้ ต้องเริ่มต้นจากการยอมรับให้ได้ก่อนว่า ปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว หนี้สินก็เช่นกัน เมื่อมีภาระหนี้สิน
ผูกพันซะแล้ว การแสร้งทำเป็นลืมๆไปไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เพราะถึงแม้จะทำให้สบายใจได้ในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะพรุ่งนี้
หรือวันไหนๆ หนี้ก็ยังอยู่ ถ้ายังไม่รู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง หันกลับมาเผชิญหน้าความจริงตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าปล่อยไว้จนสายเกินแก้
2.จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ไม่ว่าปัญหาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็จะเบาลงได้ ถ้ามีคนช่วยแ ชร์อย่าเอาแต่แบกรับ ความกลุ้มใจไว้ เพียงคนเดียว
ลองหันไปปรึกษาคนในครอบครัว หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ พวกเขาต้องพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแน่นอน หรือ
คุณอาจจะลองเข้ากลุ่มสังคมออนไลน์ กับคนที่ประสบปัญหาหนี้สินเหมือนๆกัน
3.“หนี้”เป็นแค่อุปสรรคเล็กๆในชีวิตเท่านั้น
คนเราเกิดมากว่าจะต าย ย่อมต้องเจออุปสรรคมากมาย เป็นธรรมดาซึ่งถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าหนี้สินที่มีตอนนี้
ก็เป็นแค่ปัญหาจุดเล็กๆจุดหนึ่งในชีวิตคุณเท่านั้น คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคนบนโลกนี้เยอะฉะนั้นจะยอมแพ้ง่ายๆไม่ได้นะ
4.“คนมีหนี้”ไม่ได้แปลว่าเป็น“คนล้มเหลว”
หลายคนรู้สึกท้อแท้ ที่จะรับมือกับหนี้สินเพราะมองว่าหนี้เกิดจากความไม่เอาไหนของตัวเองซึ่งไม่จริงเสมอไปทุกคนต่างมีความจำเป็น
ของตัวเองในโลกนี้มีคนมากมายที่ต้องพบ กับปัญหาแบบนี้เช่นเดียวกับคุณ และหลายคนก็สามารถผ่านพ้นมาได้สำเร็จ
5.ทำความเข้าใจเหตุผลที่แท้จริง
ลองตอบตัวเองให้ได้ ว่าหนี้ที่มีนั้น เกิดมาจากอะไรกันแน่ เป็นเพราะความจำเป็นจริงๆ หรือเพราะความฟุ่มเฟือยกันแน่
ถ้ามาจากความจำเป็นก็อย่าเสียใจ จำไว้ว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว และพร้อมจะรับผิดชอบผลของมันอย่าง
6.ลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
มองโลกในแง่ดี แล้วอย่าลืมวางแผนการเงิ นอย่างชาญฉลาด และลงมือจัดการกับหนี้สินอย่างจริงจัง เช่น
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หารายได้เสริมและเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาข้อตกลงที่ลงตัว กับทั้งสองฝ่าย
เพียงเท่านี้คำว่า“ปลอดหนี้”ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม