
เมื่อเราตัดสินใจจะซื้อบ้านหรือคอนโดสักหลังแล้วสิ่งที่เราจะทำต่อไปนั่นก็คือ หาธนาคารเพื่อเปรียบเทียบ ด อ ก เ บี้ ย ของแต่ละธนาคาร
และแน่นอนว่าเราต้องเลือกธนาคารที่ ด อ ก เ บี้ ย ถูกที่สุดสำหรับเรา โดยส่วนมากแล้วระยะเวลาในการทำสัญญากู้ผ่อนบ้านจะมีอายุประมาณ 30 ปี
และ ด อ ก เ บี้ ย ในแต่ละปีก็ถูกแพงแตกต่างกันไป วันนี้ Fazwaz จะนำเสนอวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ๆ มาให้นำไปปฏิบัติกันดังนี้ค่ะ
1. รีบผ่อนจ่ายให้มากในช่วง ด อ ก เ บี้ ย ต่ำ
ช่วง 3 ปีแรกของการกู้ซื้อบ้านแน่นอนว่า ด อ ก เ บี้ ย จะถูกที่สุด เนื่องจากโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารจะพยายามเสนอให้คุณในอัตราด อ กเบี้ยที่ต่ำกว่าคู่แข่ง
เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกกู้กับธนาคารนั้น ดังนั้นคุณจึงควรจัดสรรเงินเก็บในช่วง 3 ปีแรก เพื่อนำมาผ่อนให้มากขึ้น เพื่อไปลดเงินต้นและ ด อ ก เ บี้ ย ในการกู้
เมื่อเงินต้นลดลงก็จะทำให้ ด อ ก เ บี้ ย ลดลงเช่นกัน ทำให้ระยะเวลาในการผ่อนจาก 30 ปีจะลดลงไปด้วย
2. พยายามจ่ายให้เกินเงินงวดในทุก ๆ เดือน
เงินสินเชื่อบ้านนั้นจะมีทั้งเงินต้นและเงินด อ ก ในช่วงแรก ๆ นั้นแน่นอนว่าจะมี ด อ ก เ บี้ ย สูงมาก ดังนั้นหากคุณจ่ายเท่ากับจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดมานั้น
คุณต้องใช้หนี้กันเต็ม ๆ 30 ปีเลยนะคะ ดังนั้นคุณจึงควรจ่ายเพิ่มขึ้นทุก ๆ เดือน เพราะเงินที่จ่ายเกินไปในแต่ละเดือนนั้น ธนาคารจะนำไปลดเงินต้นของคุณนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น เงินงวดที่คุณจะต้องชำระแต่ละเดือนเท่ากับเดือนละ 15,000 บาท แต่หากคุณผ่อนเกินไปเดือนละ 20,000 บาท ก็จะทำให้
เงินต้นของคุณลดลงไปเดือนละ 5,000 ในทุก ๆ เดือน เมื่อเงินต้นของคุณลดลงแล้วจะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนของคุณลดลงไปด้วยเหลือเพียบ 15-20 ปีเท่านั้น
3. เมื่อครบกำหนดของธนาคารให้ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อผ่อนบ้านผ่านไปครบ 3 ปีแล้ว ด อ ก เ บี้ ย บ้านจะเปลี่ยนเป็นแบบ MRR (อัตราด อ กเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี)
ตัวอย่างเช่นใน 3 ปีแรกธนาคารกำหนดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย เฉลี่ยอยู่ที่ 3 บาทต่อปี เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 ธนาคารกำหนดให้ ด อ ก เ บี้ ย เป็น MMR-1 แล้ว MRR
ในแต่ละปีจะแตกต่างกันไป สมมุติในปีนี้กำหนดให้ MMR = 7% ดังนั้นกลายเป็นว่าปีนี้คุณจะต้องจ่ายเท่ากับ 7-1 = 6 บาท ซึ่งหมายถึง ด อ ก เ บี้ ย เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
และเงินงวดที่จ่ายไปนั้นจะจ่ายเป็นเงิน ด อ ก เ บี้ ย ซะส่วนใหญ่เลยค่ะ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องรีบปรับโครงสร้างหนี้เสียใหม่เมื่อเข้าปีที่ 4 โดยมีวิธีปรับลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย 2 วิธีดังนี้ คือ
– Refinance (การรีไฟแนนซ์) คือ การย้ายหนี้จากธนาคารเดิมของคุณไปยังธนาคารใหม่ ซึ่งธนาคารใหม่จะเสนอ ด อ ก เ บี้ ย ในอัตราที่ถูกลงให้กับคุณเพื่อจะให้คุณสามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
– Retention (การรีเทนชั่น) คือ การขอลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย กับธนาคารเดิมที่คุณผ่อนชำระอยู่ เพื่อให้ ด อ ก เ บี้ ย ในการผ่อนชำระลดลง หรือเท่ากับปีก่อน ๆ ที่เคยผ่อนชำระมา
คุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะทำการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่หรือทำการรีเทนชั่นกับธนาคารเดิมก็ได้ ตามที่เหมาะกับคุณ ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างเช่น
การรีไฟแนนซ์นั้น อาจจะทำให้ ด อ ก เ บี้ ย ของคุณถูกลงกว่าธนาคารเดิมมาก แต่คุณจะต้องเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด และต้องใช้เวลาในการอนุมัติอีกด้วย และ
อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมา ส่วนการรีเทนชั่น นั้นไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เพราะธนาคารเดิมของคุณมีข้อมูลอยู่แล้ว การพิจารณา อนุมัติเร็ว
หากคุณเป็นลูกค้าชั้นดี คือจ่ายเงินตรงตามจำนวนและเวลาที่กำหนดตลอด แต่อัตรา ด อ ก เ บี้ ย ก็จะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และมีค่าธรรมเนียมอีกด้วย
4. โปะเงินก้อน
ในแต่ละปีหากคุณมีเงินเก็บหรือได้โบนัสมาจากบริษัทที่ทำงานอยู่ คุณสามารถนำเงินก้อนเหล่านี้มาโปะหนี้บ้านของคุณ ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถ
ลดทั้งต้นและ ด อ ก เ บี้ ย ลงเป็นจำนวนมากเลยค่ะ หรือคุณอาจจะวางแผนเพื่อจ่ายเงินงวดเพิ่มขึ้นอีก 1 งวด จากเดิมคุณต้องจ่าย 12 งวด
แต่ให้คุณจ่ายเพิ่มเป็น 13 งวด ก็สามารถลดเงินต้นและเงิน ด อ ก เ บี้ ย บ้านให้กับคุณไปได้มากเช่นกัน
5. ติดตามโปรโมชั่นของธนาคารเรื่อย ๆ
ให้คุณหมั่นติดตามข่าวสารของธนาคารที่ตนเองมีสินเชื่ออยู่หรือธนาคารอื่น ๆ ที่เสนอ ด อ ก เ บี้ ย ที่ถูกลง ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่นบ้านต่างกันไป
หากเงื่อนไขของธนาคารนั้น ๆ ตรงกับคุณสมบัติของคุณ ก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณผ่อนบ้านในอัตรา ด อ ก เ บี้ ย ที่ลดลงได้
6. ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
นอกเหนือจากการพยายามผ่อนเพื่อลดเงินต้นลดเงินด อ กของคุณแล้ว คุณต้องมีวินัยในการใช้จ่าย ด้วยการไม่สร้างหนี้ใหม่ให้เกิดขึ้นเป็นยังไงกันบ้างค่ะ
พอจะทราบวิธีปลดหนี้บ้านของคุณให้หมดเร็ว ๆ กันบ้างแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้นหากคุณวางแผนการเงินและค่าใช้จ่ายของคุณดี ๆ ก็สามารถทำให้หนี้บ้านของคุณหมดเร็วขึ้นนะคะ
ขอบคุณ Fw Line