
คุณคงคิดว่าพนังงานที่ดีส่วนใหญ่มักจะลาออกจากงาน ด้วยเหตุผลเรื่องเงินเดือนเป็นอันดับแรกๆ
แต่จริงๆแล้วการที่คนส่วนมากตัดสินใจลาออกจากงาน มักจะเริ่มมาจากปัญหาของบริษัท
เพราะบริษัทมักจะตั้งกฎระเบียบเพื่อให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม
กฎระเบียบเหล่านี้ลดความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานและเปลี่ยนพนักงานที่ยอดเยี่ยมให้กลายเป็น
พนักงานธรรมดา และรู้สึกว่าไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจึงค่อยๆ หมดความสนใจ
ในการทำงาน และลาออกจากงานในที่สุดดังนั้น การที่บริษัทจะรักษาพนังงานที่มีความสามารถระดับสูงไว้
และป้องกันการหมดความสนใจของพนังงาน บริษัทและผู้บริหารควรทำให้พนังงานมีความกระตือรือร้นที่จะทำงาน ดังนี้
1. เวลาในการทำงาน
โดยส่วนใหญ่แล้วพนังงานจะเข้าใจในเนื้องานมากกว่าผู้บริหารอยู่แล้ว พวกเขารู้ว่ากำลังทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่
อย่างไร ที่จะเหมาะสมกับเขาที่สุดในเวลานั้นๆ ซึ่งในบางครั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องมาทำงานที่บริษัท
การทำงานที่บ้านในบางครั้งอาจจะมีประสิทธิภาพกว่าก็ได้ และในสมัยนี้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานผ่านทางอีเมล์ได้
ดังนั้นผู้บริหารที่ฉลาด จะไม่บังคับให้พนักงานทำงานในบริษัทตลอดเวลา เพราะเขาจะมองถึงประสิทธิภาพ
ในการทำงานของพนังงาน เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการที่ต้องให้พนังงานอยู่ในสายตาตลอด เพียงแค่รู้
หน้าที่ของตัวเองและทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว แต่ถ้าใครที่ไม่มีความรับผิดชอบก็คงจะไม่ผ่านช่วงทดลองงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
2. ขั้นตอนการรออนุมัติ
ในหลายๆครั้ง งานต้องรอรับการอนุมัติจากผู้ใหญ่ก่อนถึงจะเริ่มทำได้ ยิ่งทำให้เสียโอกาสในการสร้างงาน
ทำให้เสียเวลาและงาน ล้ ม เ ห ล ว ได้ ซึ่งการรออนุมัติแต่ละครั้งย่อมส่งผลต่อโอกาสของงานอย่างแน่นอน
พนังงานต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการรอการอนุมัติ กลายเป็นไม่อยากที่จะทำอะไร เพราะยังไงก็ต้องรออีกเหมือนเดิม
ซึ่งถ้าเป็นโครงการใหญ่ที่สำคัญสำหรับบริษัท ก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ แต่ถ้าแค่งานทั่วไปที่จำเป็นต้องทำอยู่แล้ว
แต่ยังต้องมาเสียเวลาขออนุมัติก่อน ดูจะทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้งานที่ง่ายๆ
กลับล่าช้าโดยไม่จำเป็น ส่งผลถึงประสิทธิภาพในงานใหญ่ๆลดลงไปด้วย
3. การพูดคุยกับพนักงานและมีส่วนร่วมในงานของพวกเขา
เคยได้ยินประโยคนี้ไหม อยากได้ใจคน ต้องให้ใจเขาก่อน ดังนั้นการที่จะเข้าใจสภาพที่เป็นอยู่ของพนักงานนั้น
ผู้บริหารต้องพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับพวกเขาและมีส่วนร่วมในงานของพวกเขา สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับเขา
เป็นการใช้ใจแลกใจ การสร้างความสัมพันธ์ไม่ดี ไม่สนใจพนักงาน จะยิ่งทำให้พนังงานไม่เต็มที่
กับเราเหมือนกัน และเป็นเหตุให้ต้องออกไปอยู่ในที่ที่สบายใจมากกว่า
4. เกี่ยวกับวันหยุดพักผ่อน
พนักงานควรได้รับสิทธิประโยชน์ประเภทนี้จากบริษัท : เมื่อไม่สบายพวกเขาสามารถพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
จนกว่าพวกเขาจะหายดี แล้วค่อยกลับไปทำงาน จะเป็นการดีกว่า เพื่อป้องกัน เ ชื้ อ โ ร ค ไม่ให้มาติดกับพนักงานคนอื่น
บริษัทส่วนใหญ่มักจะมีการบังคับให้ใช้ใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลมายื่นให้บริษัทเพื่อเป็นหลักฐาน
ในกรณีที่ไม่สบาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาการของเขาอาจจะแค่ต้องการ กินยาพักผ่อน เพื่อให้ร่างกาย
ได้รับการฟื้นฟูแค่นั้นก็ได้ หรือในกรณีที่พนังงานต้องการลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดควรให้อิสระแก่พนักงาน
อย่าบังคับให้พนักงานโกหกและไปขอใบรับรองแพทย์ ควรเคารพพนักงานของคุณและเชื่อว่าพวกเขาจะเคารพเวลาของตัวเขาเอง
5. ข้อเสนอแนะของพนักงาน
บริษัทส่วนใหญ่มักจะมีแบบสอบถามทำการสำรวจกับพนักงานตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมักจะไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจสถานะการทำงานและความคิดเห็นของพนักงานก็คือ พูดคุยกับพนักงานโดยตรง
ถ้าหากบริษัทไม่สามารถพูดคุยโดยตรงกับพนังงานได้ นั่นถือว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาอย่างชัดเจน เพราะคุณ
ไม่สามารถทำให้พนังงานเชื่อใจและกล้าพูด แสดงความคิดเห็นกับคุณได้โดยตรง ดังนั้นทางบริษัทควรยกเลิก
การทำสำรวจและพูดคุยกับพนักงานโดยตรง เปิดโอกาสให้พนังงานได้แสดงความคิดเห็นของเขาอย่างเต็มที่
6. ตั้งกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินจำเป็น
การที่จะบริหารคนจำนวนมากๆให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด เมื่อต้องมาทำงานอยู่ร่วมกัน แน่นอนว่าต้องมี
กฏระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม แต่การจะตั้งกฏแต่ละครั้งต้องมีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงๆ
ไม่ใช่อยากจะตั้งกฏอะไรก็ได้ที่ไม่ควรจะมี อย่างเช่นการคิดเงินเดือนที่เข้มงวด หรือการจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับพนักงาน
ซึ่งการถูกจับตาดูอยู่ตลอดเวลา ก็คงไม่มีใครชอบและรู้สึกอึดอัด การทำงานไม่มีความสุข
เจอแรงกดดัน มันอาจทำให้พนักงานทนไม่ไหว จนเลือกเปลี่ยนงานก็เป็นได้