
บางคนรู้สึกโชคไม่ดี ไม่ได้งานตามที่หวังไว้ ทำงานไปแบบไม่มีความสุข แต่บางคนก็โชคดีเหลือเกินที่ได้งานตามที่คาดหวังไว้
และมีความสุขกับการทำงานทุกวัน ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกเรื่องควรเผื่อใจไว้เสมอ หากวันหนึ่งไม่เป็นอย่าที่เราหวังไว้ จะได้รับมือกับมันได้
หากคุณกำลังรู้สึกภาคภูมิใจกับงานที่ทำอยู่ตอนนี้มากๆ คุณจึงทุ่มเททำงานให้กับบริษัทหรือองค์กรของคุณ แต่คุณอย่าลืมว่า
หากวันหนึ่งที่คุณไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับบริษัทได้แล้ว อาจจะไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน และเมื่อบริษัทหาคนมาทำงานแทนคุณได้ เขาก็จะจ้างคนใหม่มาทำแทนคุณอยู่ดี
7 ข้อคิดเตือนใจ…สำหรับลูกจ้างและมนุษย์เงินเดือน
1. ไม่ควรทุ่มเทเวลาให้กับบริษัทมากเกินไป
จนลืมที่จะแบ่งเวลาให้กับครอบครัว คุณมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบและดูแล ซึ่งคุณทำมันได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ควรจะหยุดการทำงาน
ไว้ตรงนั้น แล้วหันไปใส่ใจครอบครัว เพราะหลังเลิกงาน ควรเป็นเวลาที่คุณต้องทุ่มเทให้ครอบครัวของคุณบ้าง คนอื่นสามารถมาแทนตำแหน่งหน้าที่คุณได้เสมอ แต่ครอบครัวไม่มีใครมาแทนที่กันได้
2. หากคุณต้องเจอมรสุมชีวิต
หัวหน้างานหรือบริษัทของคุณ เขาคงไม่มานั่งสนใจหรือเห็นอกเห็นใจคอยช่วยเหลือคุณหรอก ถึงจะมีก็หายากมาก แต่คนที่เป็น ทุ ก ข์ ไปกับคุณด้วย
คอยอยู่ข้างๆคุณนั้น มีแต่ครอบครัวของคุณเอง ดั่งคำที่ว่า “ปัญหาของบริษัท ก็คือปัญหาของเรา…แต่ปัญหาของเรา ไม่ใช่ปัญหาของบริษัท “ จงเข้าใจและยอมรับให้ได้ว่ามันคือความเป็นจริง
3. ชีวิตนี้ ไม่ได้มีแค่งาน
ในชีวิตเรายังมีอีกหลายอย่างที่สำคัญ อย่างการพบเจอเพื่อนฝูง การเข้าสังคม การไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน หาประสบการณ์ใหม่ๆและเปิดโลกกว้าง การออกกำลังกายดูแลตัวเอง ใช้เวลาอยู่กับคนรักหรือครอบครัว
สิ่งเหล่านี้ก็สำคัญสำหรับชีวิตไม่แพ้เรื่องงานเลย เมื่ออยู่นอกเวลางานควรหากิจ ก ร ร ม อย่างอื่นบ้าง
อย่าทุ่มเทเวลาทั้งหมดในชีวิตให้งานซะหมด เพราะบริษัทไม่สามารถคืนเวลาในชีวิตให้คุณได้หรอกนะ บางสิ่งบางอย่างผ่านไปแล้ว ก็ผ่านเลยไป
4. สำหรับคนที่ชอบทำงานล่วงเวลาเป็นประจำ
เพราะงานเสร็จไม่ทันเวลา คุณอย่าคิดว่าเป็นความขยัน แต่มันคือตัวบ่งชี้ว่าคุณทำงานไม่ได้ตามเวลา การทุ่มเทให้กับงาน ไม่ได้ดูว่าคุณใช้เวลาอยู่ที่ทำงาน
มากแค่ไหน แต่อยู่ที่การทำงานให้เสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้เวลาได้น้อยที่สุดต่างหาก คนที่ทำงานเสร็จตามเวลาได้ คือ
คนที่มีความสามารถที่จะบริหารงานเป็น คุณต้องแยกให้ออกว่าเวลางานคือเวลางาน เวลาเลิกงานก็ต้องพักผ่อนอยู่กับครอบครัว แบบนี้ถึงเรียกว่าเป็นคนที่จัดสรรเวลาเป็น และใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
5. หากคุณมีงานเยอะมาก
จนไม่สามารถทำเสร็จได้ทันตามเวลาเลิกงาน สุดท้ายก็ต้องอยู่ทำงานต่อดึกๆดื่นๆ ให้รู้ไว้ว่า…เป็นเพราะหัวหน้างานคุณไม่มีความสามารถ และ
ไร้ประสิทธิภาพที่จะจัดการบริหารงาน และแจกจ่ายงานไปให้ลูกน้องทำให้พอดีกับเวลาได้ ไม่ใช่เพราะว่าคุณไร้ความสามารถ
6. งานเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด
เมื่อคุณต้องการที่จะทำงานให้หมดเร็วๆ เพื่อที่จะได้มีเวลาได้พักผ่อนและใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คุณจึงพยายามนั่งทำงานทั้งคืนให้เสร็จโดยเร็ว
แต่กลายเป็นว่าคุณกลับได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก และมันก็เป็นแบบนี้ประจำ เมื่อคุณทำงานเก่งและทำเสร็จได้เร็ว คุณก็จะได้รับงานเพิ่มอีก เป็นรางวัลตอบแทน
7. หันมองดูเศรษฐกิจปัจจุบัน
หลายบริษัทไปต่อไม่ไหว ต้องปิดกิจการ บางคนตื่นไปทำงานตามปกติ แต่กลับพบว่าตัวเองกลายเป็นคนว่างงาน หลายแห่งเริ่มนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงาน ชีวิตเราต้องเสี่ยงกับการถูกเลิกจ้าง
ดังนั้นเราจึงไม่ควรทุ่มเทเวลาและกำลังทั้งหมดทำงานจนสุดชีวิต เพื่อหวังให้บริษัทของคุณก้าวหน้า เพราะหากคุณหมดประโยชน์เมื่อไหร่ เขาก็ไม่หันกลับมามองคุณอยู่ดี
เราไม่ได้บอกให้คุณไม่ทุ่มเท หรือไม่ใส่ใจกับการทำงาน การรักบริษัทและงานที่ทำนั้นเป็นสิ่งดี แต่เราไม่ควรทุ่มเทหมดทุกอย่าง
ทั้งชีวิตนี้ให้กับงานอย่างเดียว เพราะสุดท้ายแล้ว งานไม่ใช่ทุกอย่างที่จะตอบโจทย์ให้กับชีวิตของเรา เราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูก
และทำในส่วนนั้นให้เต็มที่ในเวลาของมัน อย่าเอามาล้ำเส้นหรือแย่งเวลาของกันและกัน คนที่สามารถบริหารเวลางาน กับเวลาชีวิตให้พอดีลงตัว คือคนที่มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตที่สุด
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : bitcoretech