Home ข้อคิดดีๆ 8 ครั้งที่แม่โกหกผมตั้งแต่เล็กจนโต

8 ครั้งที่แม่โกหกผมตั้งแต่เล็กจนโต

เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมย็งเล็ก

ผมเกิดในครอบครัวยากจน จนมากขนาดที่ว่าต้องอดข้าวบ่อย ๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว…

แม่จะแบ่งข้าวให้ผมเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า “ ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ… ส่วนแม่ไม่ค่อยหิว ” นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหก

เมื่อผมเติบโตขึ้น

คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์

ต่อการเจริญเติบโตของผม แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..

แม่จะกินแค่หั วปลา ให้ผมได้กินแค่ส่วนตัว และ ส่วนเนื้อปลาไปแล้ว ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่

แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า “ ลูกกินเถอะ…แม่ชอบกินหั วปลา ” นี่เป็นครั้งที่สองที่แม่โกหกผม

เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม

เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการหาอาชีพเสริม บางครั้งผมตื่นขึ้นมา

ตอนตี 1 หรือตี 2… ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน “ แม่ครับ…นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว

พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก ” แม่ยิ้มกับผมพูดว่า “ ลูกนอนต่อก่อนนะ…แม่ยังไม่เหนื่อย แม่นอนไม่หลับ ” นับเป็นครั้งที่สาม

ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย

แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจใ ห้ผม มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ

… แม่ต้องรอผมอยู่หลายชั่ วโมงเมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ… รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่เหงื่อท่วมตัว..

แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึง

ขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า “ ลูกกินเถอะ แม่กินไปแล้ว ” นั่นเป็นครั้งที่สี่ที่แม่โกหกผม

ยิ่งนานวัน ค่าใช้จ่ายในบ้านยิ่งเพิ่มขึ้น

คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่ก็ยังไม่ค่อย

เพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆ บ้านท่านเป็นคนดี

พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ…. เช่น ช่วยซ่อมบ้านที่ผุพัง..ฯลฯ เพื่อนบ้าน

เห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงาน ใหม่ แต่แม่ไม่เห็นด้วย

แม่พูดกับผมว่า “ แม่มีลูกอยู่ทั้งคน…แม่ไม่ต้องการความรักอีก ” แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ห้าแล้ว

ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ

ผมอยากให้แม่ที่ทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง ผมจึงไปทำงานในตัวเมือง และ

ส่งเงินมาให้แม่ใช้ แต่แม่ไม่ยอมหยุด กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆ

แม่ไม่ค่อยยอมรับเงินผม.. บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า “

แม่มีเงินพอใช้แล้ว…ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ ” แม่ไม่พูดความจริงกับผมเป็นครั้งที่หกแล้ว

เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า.. ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง

เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง เมื่อทำงานไปได้สักพัก…

ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่ในตัวเมือง เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน…พักผ่อน

ให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม…บอกผมว่า “

แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างที่ ” ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม

เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..

ในที่สุดแม่ก็ป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที

แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอม

ดูโทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม….พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก

ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวดจากโรคม ะเ ร็งที่ล ามไปทั่วทั้งตัว

ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด

แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่า และ สั่นเครือ “ ลูกรักของแม่…เห็นหน้าลูกแม่ก็ดีใจแล้ว

” นี่เป็นครั้งที่ 8 และ เป็นครั้งสุดท้าย ที่แม่โกหกผม

แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลง และ จากผมไป

อย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งสุดท้ายจบลง …

Load More Related Articles
Load More By wera phosri
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

11 การเอาตัวรอดเป็น ไปทำงานที่ไหนก็ราบรื่น ไม่ลำบาก

1 เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม คนที่ฉลาดมักจะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ต่…